ITEL บวก 5% รับแผนขาย IDC เข้ารีทส์ ไตรมาส 4 มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังโตเด่น!
ITEL บวก 5% รับแผนขาย IDC เข้ารีทส์ ไตรมาส 4 ลั่นผลงานครึ่งปีหลังโตเด่น! ตุนแบ็กล็อกแน่นกว่า 3 พันลบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(15 ก.ย.2564) ราคาหุ้นบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL ณ เวลา 10.49 น. อยู่ที่ระดับ 5.20 บาท บวก 0.26 บาท หรือ 5.26% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 99.55 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ITEL เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนนำสินทรัพย์ที่เป็นศูนย์อินเตอร์ลิ้งค์ ดาต้า เซ็นเตอร์ (IDC) แห่งที่ 1 ขายเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) มูลค่ากว่า 700 ล้านบาท โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการและเตรียมยื่นแบบแสดงรายการขอเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) คาดว่าจะมีความคืบหน้าในไตรมาส 3/2564 และขายได้ในไตรมาส 4/2564 หรือไตรมาส 1/2565
ส่วนศูนย์ดาต้า เซ็นเตอร์แห่งที่ 2 ซึ่งร่วมลงทุนกับพันธมิตร 2 ราย ได้แก่ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT และบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ภายใต้บริษัท เจเนซิส ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด มีทั้งหมด 4 เฟส โดยเฟสแรกจะมีลูกค้าเข้ามาเพิ่มเติมในเดือน ก.ย. 2564 ทำให้พื้นที่ให้บริการเต็ม
ขณะที่ เฟสที่ 2 มีการเจรจากับลูกค้า และอยู่ระหว่างรอลูกค้าตอบตกลง ซึ่งการให้บริการดาต้า เซ็นเตอร์ มีความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามเทรนด์ของโลกยุคดิจิทัลเมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทั้งภาครัฐและเอกชนต้องเร่งขยายพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการ Work From Home
นอกจากนี้ บริษัทมีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็น Edge Data Center รองรับการให้บริการลูกค้ารายใหญ่ เช่น ไมโครซอฟท์ เป็นต้น เนื่องจากมองเห็นโอกาสการเติบโตในอนาคต หลังจากสิงคโปร์ไม่ให้มีการสร้างศูนย์ดาต้า เซ็นเตอร์เพิ่มเติม ทำให้ผู้ประกอบการดังกล่าวจะต้องกระจายหน่วยงานย่อยไปอยู่ในมุมต่าง ๆ ของโลก ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับความสนใจ และจุดศูนย์กลางที่จะเชื่อมต่อไปยังหลาย ๆ ประเทศ โดยดาต้า เซ็นเตอร์ของบริษัท ถือเป็นดาต้า เซ็นเตอร์ที่ได้มาตรฐาน และสามารถรองรับผู้ให้บริการดังกล่าวได้
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 บริษัทคาดว่าจะดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก ที่มีรายได้อยู่ที่ 1,009 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 93 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ 3,179 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง จำนวน 904 ล้านบาท แบ่งเป็นงานให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม (Data service) จำนวน 618 ล้านบาท, งานติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคมจำนวน 247 ล้านบาท และงานการให้บริการพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์ จำนวน 39 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2567
ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทคาดว่าจะงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติมอีกกว่า 2,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา งานที่รอผลการประมูล และงานที่อยู่ระหว่างรอเข้าประมูล โดยคาดว่าจะได้เซ็นสัญญาในไตรมาส 3/2564 ประมาณ 700-800 ล้านบาท ผลักดันให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2564 เติบโตจากไตรมาสก่อน และจะรับรู้รายได้จากงานใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังประมาณ 800-1,000 ล้านบาท ดังนั้นบริษัทคงเป้าหมายรายได้ปี 2564 อยู่ที่ 2,800 ล้านบาท เติบโต 20-30% จากปีก่อน และเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท ในปี 2569