DTAC วิ่งกระฉูด 6% โบรกฯ แนะ “ถือ” มองผลงาน Q4 ฟื้นตัวแกร่ง
DTAC วิ่งกระฉูด 6% มาที่ 41.75 บ. ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.80 พันลบ. โบรกฯ แนะ "ถือ" มองผลงาน Q4 ฟื้นตัวแกร่ง หลังคลายล็อคดาวน์ หนุนกำลังซื้อและซิมนักท่องเที่ยวฟื้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ล่าสุด ณ เวลา 15.37 น. อยู่ที่ 41.75 บาท บวก 2.25 บาท หรือ 5.70% สูงสุดที่ 42.25 บาท ต่ำสุดที่ 38.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.80 พันล้านบาท
ทั้งนี้ บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ (23 ก.ย.) ยังคงคำแนะนำ “ถือ” และราคาเป้าหมายที่ 35 บาท อิง DCF (WACC 8.9%, TG 2%) โดยประเมินกำไรปกติไตรมาส 3/2564 ที่ 797 ล้ านบาท ลดลง 45% เมื่อเทียบจากปีก่อน และลดลง 29% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน ยังคงถูกกระทบจากการ lockdown ซึ่งกินเวลาส่วนใหญ่ในไตรมาส 3/2564 ควบคู่กับการแข่งขันรุนแรงที่ต่อเนื่องจากปลายไตรมาส 2 ทำให้ ARPU มีแนวโน้มลดลงทั้งเมื่อเทียยจากปีก่อน และเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน
ด้านค่าใช้จ่ายแม้ควบคุมได้โดยต้นทุนการขายคาดทรงตัวเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน จาก cost saving program และ SG&A ที่ลดลงเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน จากค่าการตลาดที่ลดลงช่วง lockdown แต่ไม่เพียงพอชดเชยรายได้ที่ถูกกระทบ
ทั้งนี้ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2564 ที่ราว 3.9 พันล้านบาท ลดลง 28% เมื่อเทียบจากปีก่อน คาดผลประกอบการฟื้นตัวได้ในไตรมาส 4/2564 จากการกลับมาเปิดเมืองตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/2564 อย่างไรก็ตามภาพรวมในระยะกลางยังคงเปราะบางจากการแข่งขันรุนแรงและต้นทุนการลงทุนรอบใหม่เป็นปัจจัยกดดันผลประกอบการ
ด้านบล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (23 ก.ย.) คาดว่างวดไตรมาส 3/2564 ของ DTAC จะเป็นจุดต่ำสุด โดยคาดจะเห็นการฟื้นตัวนับจากไตรมาส 4/2564 แม้เป็นไตรมาสที่จะต้องอุดหนุน iPhone รุ่นใหม่สูง แต่จะแลกกับการได้ลูกค้าชั้นดี เข้ามาหนุนรายได้ค่าบริการ ร่วมกับปัจจัยเรื่องสถานการณ์ COVID ในประเทศคลี่คลายที่จะมีลำดับแรกต่อกำลังซื้อภาพรวม ขณะที่จะตามด้วยรายได้ส่วนของซิมต่างด้าวที่ลดลงมีนัยฯในช่วง COVID รวมถึงซิมนักท่องเที่ยว ที่จะเห็นอานิสงส์เต็มปีในปี 2565 ในปี 2565 คาดว่ารายได้ DTAC จะได้ประโยชน์อีกส่วนจากบริการ 5G ที่จะกลับมาเทียบเคียงคู่แข่งขันจากโอกาสประมูลคลื่น 5G 3500 MHz
ทั้งนี้ปี 2565 แม้คาด DTAC ต้องมีต้นทุนคลื่น 5G ใหม่เพิ่ม แต่ปิดจุดอ่อนสำคัญ และเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมในเรื่องรายได้ นอกเหนือจากผลบวกที่มีจาก COVID คลี่คลาย ที่หนุนกำลังซื้อและซิมนักท่องเที่ยวฟื้น โดยยังไม่รวมถึง อานิสงส์การคุมต้นทุนที่เป็นจุดแข็งที่ชดเชยต้นทุนใหม่ ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการสะท้อนข้อมูลช่วง 9 เดือนแรกปี 2564 และคลื่นใหม่ คาดกำไรปี 2564 ลดลง 20% แต่ฟื้นตัว 3.8% ในปี 2565 มูลค่าหุ้นปี 2565 ที่ 44 บาท ยังมี Upside แนะนำ “ซื้อ”