SMT รูด 4% คาดนักลงทุนแห่ขาย กังวลน้ำท่วม “อยุธยา” กระทบโรงงานผลิต

SMT รูด 4% มาที่ 5.80 บ.คาดนักลงทุนกังวลน้ำท่วม “อยุธยา” กระทบโรงงาน ฟากผู้บริหารยันมีแผนรับมือเตรียมไว้แล้ว ส่วนโบรกฯ ยังแนะ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้า 7.90 บ. ชี้กำไรโตยาว หลังออเดอร์เพิ่มต่อเนื่อง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT ล่าสุด ณ เวลา 15.01 น. อยู่ที่ 5.80 บาท ลบ 0.25 บาท หรือ 4.13% สูงสุดที่ 6.05 บาท ต่ำสุดที่ 5.70 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 55.10 ล้านบาท

ทั้งนี้ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ก.ย.) ว่า  ได้ตรวจสอบกับผู้บริหาร SMT ไม่พบว่ามีปัจจัยลบใหม่ที่มีผลต่อปัจจัยพื้นฐานบริษัทเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจุบันบริษัทยังผลิตสินค้าตามปกติเพื่อส่งมอบสินค้าตามคำสั่งซื้อในช่วงครึ่งหลังปี 2564 ทั้งนี้ มองว่าราคาหุ้นที่ปรับลงแรง น่าจะเกิดจากความกังวลผลกระทบน้ำท่วมในจังหวัดอยุธยา ซึ่งโรงงาน SMT มีแห่งเดียวและตั้งอยู่ในนิคมบางปะอิน

นอกจากนั้นได้สอบถามแผนรับมือกรณีน้ำท่วมโรงงานกับผู้บริหาร พบว่า บริษัทมีแผนรับมือและประเมินความเสี่ยงเป็น 3 ระดับ โดยกรณีรุนแรงต้องหยุดการผลิต บริษัทมีการทำประกันครอบคลุมทั้งความเสียหายของทรัพย์สินและประกันภัยกรณีธุรกิจหยุดชะงัก (Business Interruption: BI)

นอกจากนี้บริษัทมีการหาโรงงานเช่าชั่วคราวไว้แถวโซนวงแหวนตะวันออกและใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิสำหรับขนย้ายเครื่องจักรในโรงงานชั้น 1 เพื่อไม่กระทบการผลิตสินค้าและลูกค้าบางส่วน ซึ่งมองว่าการที่บริษัทมีแผนรับมือเพื่อลดผลกระทบกรณีน้ำท่วมโรงงานจะช่วยลดความเสี่ยงจากสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ไม่รุนแรงเหมือนปี 2554

ขณะที่ข้อมูลของกรมชลประทานช่วงเช้าวันนี้รายงานระดับน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา สถานีบางไทร ซึ่งเป็นจุดใกล้นิคมบางปะอิน มีปริมาณน้ำประมาณ 2,846 ลบ.ม/วินาที ยังต่ำกว่าจุดวิกฤตที่ 3,500 ลบ.ม./วินาที นอกจากนี้ หากเทียบกับปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมมีมวลน้ำประมาณ 3,200 ลบ.ม/วินาที มองว่าปัจจุบันประเด็นสถานการณ์น้ำท่วมยังต้องติดตามปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ดียังคงคำแนะนำ “ซื้อ” SMT ราคาเป้าหมายที่ 7.90 บาท เนื่องจาก 1) ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อพัฒนาการของบริษัทในการเดินหน้าเพิ่มลูกค้าและสินค้าใหม่ตามแผนของบริษัท โดยในครึ่งหลังปี 2564 คาดมีกำไรเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบจากปีก่อน และเมื่อเทียบจากครึ่งปีแรก ตามการเติบโตของยอดขายสินค้า 3 กลุ่มหลัก รวมทั้งคาดว่าจะมี Gross margin ที่ 20% ดีขึ้นจากครึ่งแรกปี 2564 มี Gross margin ที่ 19.4%

Back to top button