KSL พุ่ง 5% ลุ้นอ้อยเข้าหีบปี 65 แตะ 6 ล้านตัน-ราคาน้ำตาลสูงต่อเนื่อง
KSL พุ่ง 5% ลุ้นปริมาณอ้อยเข้าหีบปี 65 แตะ 6 ล้านตัน จากปี 64 มีปริมาณอ้อยเข้าหีบอยู่ที่ 4.77 ล้านตันอ้อย รับปัจจัยบวกปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาค่อนข้างมาก อีกทั้งคาดการณ์ราคาน้ำตาลปี 65 ยังคงเป็นบวกต่อเนื่อง หลังบราซิลประสบปัญหาภัยแล้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (28 ก.ย. 2564) ราคาหุ้นบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL ณ เวลา 14.56 น. อยู่ที่ระดับ 3.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท หรือ 5.03% โดยทำจุดสูงสุดที่ 3.82 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 3.58 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 104.44 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้นายชลัช ชินธรรมมิตร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ KSL เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าปริมาณอ้อยเข้าหีบปี 2565 ที่จะเริ่มฤดูกาลหีบอ้อยในช่วงปลายเดือน พ.ย. 2564 เป็นต้นไปจนถึงเดือน มี.ค. 2565 จะเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 6 ล้านตันอ้อย และมีปริมาณน้ำตาลที่ 6 – 7 แสนตัน จากปี 2564 ที่มีปริมาณอ้อยเข้าหีบอยู่ที่ 4.77 ล้านตันอ้อย คิดเป็นปริมาณการผลิตน้ำตาลประมาณ 5.28 แสนตัน
ทั้งนี้ปัจจัยหนุนมาจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาค่อนข้างมากในปัจจุบัน ส่งผลดีต่อปริมาณอ้อยเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยทางอุตสาหกรรมและรัฐบาล ได้ประมาณการผลผลิตอ้อยในปี 2565 ไว้ที่ 85 – 90 ล้านตันอ้อย และปริมาณน้ำตาลจะอยู่ที่ 10 ล้านตันน้ำตาล จากปีก่อนที่มีปริมาณอ้อยอยู่ที่ 66 ล้านตันอ้อย
ขณะที่สถานการณ์น้ำตาลโลก ตั้งแต่ปี 2563 – 2565 ยังคงอยู่ในสภาวะขาดดุล เนื่องจากประเทศผู้ผลิตหลัก อย่างบราซิล ประสบปัญหาภัยแล้ง และมีการนำอ้อยไปผลิตเอทานอลมากขึ้น รวมถึงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ก็ส่งผลทำให้การบริโภคลดลงในบางภูมิภาค อีกทั้งยังมีการเข้ามาเก็งกำไรในน้ำตาลของกองทุนต่างๆ โดยได้เปลี่ยนสถานะจากขายเป็นซื้อตั้งแต่ปีก่อนเป็นต้นมา ทำให้ราคาน้ำตาลปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือน เม.ย.2563
โดยมีราคาน้ำตาลปัจจุบันอยู่ในช่วง 18 – 20 เซนต์/ปอนด์ จากเดิมอยู่ที่ 14 – 16 เซนต์/ปอนด์ ขณะที่ KSL ก็คาดการณ์ราคาน้ำตาลปี 2565 ยังคงเป็นบวกต่อเนื่อง จากปัจจุบันยังไม่เห็นภาพลบ หรือมีปัจจัยที่เข้ามากระทบต่อราคาน้ำตาล
“การที่อ้อยกลับเข้ามาสู่ระดับ 90 ล้านตันอ้อยก็จะส่งผลดีต่อต้นทุนต่อหน่วยลดลง และส่งผลดีต่อธุรกิจพลังงาน ทำให้เราไม่ต้องไปซื้อวัตถุดิบ หรือกากอ้อยเพิ่มเติมก็จะลดต้นทุนลง ประกอบกับ ฤดูกาลหีบอ้อยที่จะถึงนี้ ค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าก็จะส่งผลดีต่อภาพรวมการดำเนินงานของธุรกิจ จากปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการขายในประเทศอยู่ราว 20 – 30% และส่งออก 70%” นายชลัช กล่าว
สำหรับการทำสัญญาขายน้ำตาลล่วงหน้าในปี 2565 ในภาพรวมปีนี้ทำไปแล้ว 30% ราคาที่บริเวณ 19 เซนต์/ปอนด์ ดีกว่าปีก่อนราว 3 เซนต์/ปอนด์ ส่วนปริมาณการขายน้ำตาลในไตรมาส 4/2564 โดยสิ้นสุดไตรมาส 3/2564 บริษัทมีน้ำตาลเหลืออยู่ราว 3 แสนตัน ซึ่งมีสัญญาขายทั้งหมดแล้ว โดยตามสัญญาการส่งออกจะสิ้นสุดเดือน ธ.ค.นี้ แต่เนื่องจากบริษัทจะปิดงบปี 2563/2564 ในเดือนต.ค.2564 ทำให้น่าจะขายทันในเดือนไม่ต่ำกว่า 2 แสนตัน
นอกจากนี้บริษัทย่อย บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI ซึ่ง KSL ถือหุ้นในสัดส่วน 40% และ บริษัท บางจาก จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ถือ 60% ก็มีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หากสามารถเข้าจดทะเบียนได้ในปี 2565 ก็คาดว่าจะช่วยต่อยอดในเรื่องของธุรกิจไบโอ ขณะเดียวกันบริษัทฯ ก็ถือหุ้นในบริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE ในสัดส่วน 21.30% ที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในเร็วๆ นี้ โดยภายหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ KSL ก็จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือราว 10% และคาดจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนเข้ามาในไตรมาส 1/2565