VNG พุ่งแรง 5% มั่นใจครึ่งปีหลังโตแกร่ง! ยอดขายตปท.ฟื้นเด่น แนะซื้อเป้า 10.50 บ.

VNG พุ่งแรง 5% โดย ณ เวลา 16.27 น. อยู่ที่ระดับ 9.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มั่นใจครึ่งปีหลังโตแกร่ง! ยอดขายตปท.ฟื้นเด่น แนะซื้อเป้า 10.50 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (30 ก.ย.2564) ราคาหุ้น บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ VNG ณ เวลา 16.27 น. อยู่ที่ระดับ 9.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 5.29% โดยทำจุดสูงสุดที่ 10.10 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 9.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 132.68 ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮรอบ 3 ปี 6 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 9.95บาท เมื่อวันที่ 21 มี.ค.61

โดยก่อนหน้านี้ นายวรรธนะ เจริญนวรัตน์ กรรมการผู้จัดการ VNG เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ของโลกเริ่มควบคุมได้ และกำลังกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ผลักดันยอดขายไปต่างประเทศในช่วงไตรมาส 3/64 เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ในช่วงไตรมาส 4/64 จะได้รับแรงหนุนจากยอดขาย OSB (Oriented Strand Board) และรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งถือเป็น New Growth Driver ซึ่งจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ในปี 65 บริษัทจะสามารถเดินการผลิตแผ่น OSB ได้อย่างเต็มที่เพื่อตอบสนองการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค เนื่องจากเป็นสินค้าใหม่ที่มีคุณภาพสูง เป็น New Growth Driver ของปี 2565

สำหรับแผนการลงทุนธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผ่นไม้ในปี 64 นายวรรธนะ กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพสนับสนุนวงเงินให้กับ บริษัท วนชัย พาเนล อินดัสทรี่ส์ จำกัด บริษัทย่อยในการผลักดัน (1) โครงการโรงงานผลิตแผ่นไม้อัด (Concrete Forming Plywood) (2) โครงการโรงงานปิดผิวไม้ MDF และ PB เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ และ (3) โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ได้สำเร็จ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการลดต้นทุนและสร้างรายได้ของบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ก.ย.2564) ประเมินราคาเป้าหมาย VNG ปี 2565 ที่ 10.50 บาท อิงค่า PE 15 เท่า โดยหลังผลการดำเนินงานกลับมาเติบโตจากความต้องการที่กลับมา ขณะเดียวกันขยายกำลังการผลิตแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง (MDF) รองรับ

พร้อมออกผลิตภัณฑ์ HVA เพื่อลดความผันผวนของราคาโดยเฉพาะแผ่นปาร์ติเกิลบอร์ด (PB) รวมถึงแผนลดต้นทุนพลังงานต่อเนื่อง และคาดความสามารถในการทำกำไรกลับสู่ระดับปกติ อย่างไรก็ดีคาดปี 2565 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 27% อยู่ที่ 1,214 ล้านบาท พร้อมคาด VNG กลับมาจ่ายปันผล 2 ครั้งต่อปี

Back to top button