AMATA-WHA ราคาวิ่ง! รับแผนเปิดเมือง ชี้ยอดขายที่ดินฟื้น

บล.กรุงศรี เผยหุ้น WHA-AMATA รับอานิสงส์แผนเปิดเมือง-ปลดล็อคอุปสงค์คงค้างในที่ดินนิคมอุตสาหกรรม ประกอบกับมาตรการส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล รวมถึงสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน และ RCEP จะเป็นปัจจัยบวก ซึ่งทำให้ยอดขายที่ดินรวมฟื้นตัว 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ต.ค. 2564) สองหุ้นนิคมอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น คาดรับอานิสงส์กรณีทางประเทศไทยจะเปิดประเทศในช่วงไตรมาส 4 ปี 2564  ซึ่งจะทำให้ปลดล็อคอุปสงค์คงค้างในที่ดินนิคมอุตสาหกรรมได้ ผลดังกล่าวเกิดแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา นำโดย บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA ณ เวลา 12:32 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 19.10 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 5.52% โดยทำจุดสูงสุดที่ 19.40 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 18.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 700.73 ล้านบาท

เช่นเดียวกับบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ณ เวลา 12:32 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 3.26บาท บวก 0.10 บาท หรือ 3.16% โดยทำจุดสูงสุดที่ 3.26 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 3.18 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 356.89 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัท หลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยคาดว่า ประเทศไทยจะเปิดประเทศในไตรมาส 4 ปี 2564 ซึ่งจะปลดล็อคอุปสงค์คงค้างในที่ดินนิคมอุตสาหกรรม  นอกจากนี้ มีมาตรการส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล รวมทั้งสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดย RCEP จะเป็นปัจจัยบวก

สำหรับการเปิดประเทศจะปลดล็อคอุปสงค์คงค้าง โดยกรุงเทพฯ, ชลบุรีและระยองอาจจะเปิดเมืองในไตรมาส 4 ปี 2564 จากสมมติฐานอัตราการฉีดวัคซีน 14 วันย้อนหลัง จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสในกทม. ชลบุรีและระยองจะแตะระดับ 70% ภายในกลางเดือนต.ค., กลางเดือนพ.ย. และปลายเดือนพ.ย. ตามลำดับ

ส่วนในภาพรวมของประเทศไทย จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสจะแตะระดับ 70% ภายใน ปลายเดือนธ.ค. ซึ่งอาจนำไปสู่การยกเลิกมาตรการกักตัวในไตรมาส 1 ปี 2565 รวมถึงจำนวนวัคซีนในไตรมาส 4 จะมีเพียงพอสำหรับการฉีด 23-30 ล้านโดสต่อเดือน ปัจจัยเหล่านี้จะปูทางสู่การปลดล็อคอุปสงค์คงค้างของทรัพย์สินอุตสาหกรรม สะท้อนจากจำนวนการขอส่งเสริม บีโอไอเพิ่มขึ้น 158% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 3.8 แสนล้านบาทในครึ่งปีแรก คาดยอดขายที่ดินรวมจะฟื้นตัว 153% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 2,067 ไร่ในปีนี้และเติบโต 35% เป็น 2,791 ไร่ในปีหน้า

ขณะเดียวกันมาตรการรัฐบาลจะช่วยสนับสนุน เนื่องจากครม.มีคำสั่งให้บีโอไอดึงเงินลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (FDI) มากขึ้น โดยมี มาตรการที่ช่วยหนุนดังนี้ 1) บีโอไอเพิ่มสิทธิประโยชน์และขยายการส่งเสริม ครอบคลุมมากขึ้น 2) ความคืบหน้าของโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ EEC จะสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน และ 3) การปรับปรุงที่จะเพิ่มอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจ (easing of doing business) ของไทยให้ติด 10 อันดับแรกในปีหน้า

อีกทั้งจะได้ประโยชน์จากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน และ RCEP สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนยุติเพียงชั่วคราว และอาจกลับมาตึงเครียดอีกครั้งได้ ในปี 2563 การค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนลดลงอย่างมาก แต่การค้าของสองประเทศนี้กับ ASEAN เร่งตัวขึ้น นอกจากนี้ RCEP ที่จะมีผลบังคับในเร็ว ๆ นี้ จะเชื่อมห่วงโซ่มูลค่าของประเทศสมาชิก และเพิ่ม FDI ในภูมิภาค บริษัทจีนจะย้ายฐานการผลิตออกนอกประเทศจีน และ FDI จะหันเหออกจากจีน

อย่างไรก็ดีจากประเด็นข้างต้นทางนักวิเคราะห์คาดว่าจะมียอดขายที่ดินรวมฟื้นตัว 153% ในปีการเงิน 2564 และเติบโต 35% ในปีการเงิน 2565 ดังนั้นทาง AMATA และ WHA จะได้ประโยชน์

 

 

 

 

 

 

 

Back to top button