CHO วอลุ่มแน่น-บวกแรง 7% รับแผนธุรกิจเด่น-ลุ้นผลงานปีนี้เทิร์นอะราวด์
CHO วอลุ่มแน่น-บวกแรง 7% โดย ณ เวลา 15.06 น. อยู่ที่ระดับ 0.94 บาท บวก 0.06 บาท รับแผนธุรกิจเด่น-ลุ้นผลงานปีนี้เทิร์นอะราวด์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(5 ต.ค.64) ราคาหุ้น บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO ณ เวลา 15.06 น. อยู่ที่ระดับ 0.94 บาท บวก 0.06 บาท หรือ 6.82% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 108.10 ล้านบาท คาดรับแผนธุรกิจเด่นและลุ้นผลงานปีนี้พลิกกำไร
โดยก่อนหน้านี้นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHO เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา CHO ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาโครงสร้างชิ้นส่วนประกอบและราคาของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV Bike) เพื่อความเป็นไปได้ที่จะผลิต ประกอบรถ EV Bike ทั้งคัน หรือบางส่วน และตัวแบตเตอรี่รถ EV Bike เพื่อลดต้นทุนการจัดสร้างรถ EV Bike ในการจำหน่ายและให้ลูกค้าได้ใช้บริการหลังการขาย
ทั้งนี้การลงนาม MOU ดังกล่าว ไม่มีการกำหนดมูลค่าในข้อตกลง โดย MOU ฉบับนี้เป็นเพียงความร่วมมือ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ตามวัตถุประสงค์ข้างต้น โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปี 2564 หากโครงการไม่สามารถจัดทำให้สำเร็จได้ ข้อตกลงฉบับนี้เป็นอันเลิกกัน จะไม่มีผลผูกพันคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายแต่อย่างใด
นายสุรเดช กล่าวต่อว่า จากความร่วมมือในครั้งนี้ AJA จะมีหน้าที่จัดหารถ EV Bike ตัวอย่างและแบตเตอรี่รถ EV Bike มาให้ CHO ศึกษาโครงสร้างของต้นทุน ก่อนนำไปสู่ความร่วมมือในการผลิตและประกอบรถจักยานยนต์ทั้งคัน หรือบางส่วน และตัวแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ ให้กับ AJA ก่อนเดินหน้าผลิต EV Bike เพื่อจำหน่ายภายในประเทศได้ช่วงต้นปี 2565
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 มีโอกาสพลิกมีกำไรสุทธิได้ จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 238.74 ล้านบาท แม้ในช่วงไตรมาส 1/2564 บริษัทจะยังคงมีผลขาดทุนสุทธิ 58.46 ล้านบาท โดยจะมาจากแนวโน้มคำสั่งซื้อในช่วงไตรมาส 2/2564 เริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงน่าจะมีกำไรจากการดำเนินงาน ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการชำระหนี้ต่อสถาบันการเงิน ทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลง ส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 บริษัทมีมูลค่างานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวม 2,115.73 ล้านบาท แบ่งเป็น Backlog ภายในประเทศ 2,049.68 ล้านบาท และเป็น Backlog ต่างประเทศ 66.05 ล้านบาท โดย Backlog ทั้งหมดจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปี 2564 จำนวน 501.42 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 1,614.31 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในปีถัดไป