XPG พุ่ง 6% หลัง “ชูชาติ เพ็ชรอำไพ” อัดเงิน 1.9 พันลบ. ซื้อหุ้น 5.7%-ลุ้นกำไรปีนี้โตสนั่น
XPG ทะยาน 6% ราคาแตะ 3.32 บ. ด้วยมูลค่าซื้อขาย 118.98 ลบ. หลัง “ชูชาติ เพ็ชรอำไพ” อัดเงิน 1.9 พันลบ. ซื้อหุ้นเพิ่ม 5.7% หนุนสัดส่วนถือ 7.71% พร้อมจับตากำไรปีนี้โตสนั่นแตะหลัก 100 ลบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG ล่าสุด ณ เวลา 10.04 น. อยู่ที่ 3.32 บาท บวก 0.18 บาท หรือ 5.73% สูงสุดที่ 3.34 บาท ต่ำสุดที่ 3.18 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 118.98 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้น XPG คาดปรับตัวขึ้น หลังมีรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มาหุ้นของ XPG โดยนายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาจำนวน 511.24 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 5.7418% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาเพิ่มเป็น 686.10 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 7.706% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ที่ราคาเฉลี่ย 3.80 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่า 1,942.65 ล้านบาท
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานกรรมการ XPG เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 65 คาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากการที่ธุรกิจในเครือของบริษัทจะเดินหน้าการดำเนินงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะธุรกิจใหม่ที่เริ่มเตรียมความพร้อมตั้งแต่ปีนี้ ประกอบกับการที่ได้รับเงินเพิ่มทุนมูลค่า 7.11 พันล้านบาทเข้ามา เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญที่ช่วยเสริมศักยภาพให้กับบริษัทในการขับเคลื่อนธุรกิจในเครือได้เป็นอย่างดี
ส่วนแนวโน้มของผลการดำเนินงานในปี 64 คาดว่าจะเห็นกำไรเพิ่มขึ้นมาแตะระดับตัวเลข 3 หลักเป็นครั้งแรก จากที่ครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรสุทธิแล้วเกือบ 65 ล้านบาท โดยปัจจัยที่หนุนผลงานในปีนี้มาจากธุรกิจ Brokerage และ IB ที่ยังทำผลงานเข้ามาจากรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาในระดับที่ดีมาต่อเนื่อง
ประกอบกับธุรกิจบริหารสินทรัพย์ เอ็กซ์สปริง เอ เอ็ม ซี จำกัด (XSpring AMC) บริษัทย่อยของเอ็กซ์สปริง แคปปิตอล ได้ร่วมมือกับบมจ.แสนสิริ (SIRI) ในการร่วมลงทุนในกองสินทรัพย์ที่ประกอบด้วยลูกหนี้สิทธิเรียกร้องตามสัญญาสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์และพักอาศัย และสัญญาหลักประกันซึ่งประกอบไปด้วยที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในกรุงเทพฯ และปริมณฑล (NPL) เพื่อนำมาบริหารสินทรัพย์ต่อยอดธุรกิจ จะเข้ามาช่วยสร้างรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และหนุนการเติบโตในระยะยาว
ทั้งนี้ความสำเร็จของ XPG มาจาก 3 จุดแข็ง ภายหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คือ พันธมิตร ที่มีเงินทุนที่แข็งแกร่ง และการมี 17 Licenses ในมือ โดยมีเป้าหมายที่จะรุกธุรกิจให้เติบโตด้วยบทบาทของการเป็นผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน การใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศทางธุรกิจของเอ็กซ์สปริง เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทหลักทรัพย์ การมุ่งเน้นหุ้นขนาดกลาง (Mid-cap) เป็นหลัก การบริการครบวงจรสำหรับตลาดทุนและโซลูชันในการขายโทเคนดิจิทัล (ICO) การยกระดับความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจ และการสร้างความแข็งแกร่งให้กับทุนมนุษย์ (Human Capital) และบริษัทจะพัฒนาต่อยอดในอนาคต ด้วยการพัฒนาประสิทธิภาพในการบริหารสินทรัพย์ (AM) และการลงทุนในบริษัทที่อยู่นอกตลาด (PE) เพื่อดึงดูดกลุ่มมั่งคั่งที่มีจำนวนมากขึ้น ตลอดจนลงทุนในแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ๆ เพื่อเสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบใหม่อีกด้วย