GLOBAL วิ่ง 4% ลุ้นกำไร Q3 แตะ 631 ลบ. หลังยอดขายเด่น-ปรับราคาสินค้า โบรกฯชูเป้า 27 บ.
GLOBAL บวก 4% โบรกฯชูเป้า 27 บ. มองกำไรไตรมาส 3 โต 39% แตะ 631 ลบ. หลังยอดขายเติบโตดี และการปรับเพิ่มราคาสินค้า House brand หนุน รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่อยอดขายก็ลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (7 ต.ค. 2564) ราคาหุ้น บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL ณ เวลา 16:34 น. อยู่ที่ระดับ 21.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ 4.35% โดยทำจุดสูงสุดที่ 21.80 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 20.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 673.90 ล้านบาท
บริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (6 ต.ค. 2564) ว่าแม้เกิดเหตุน้ำท่วมในช่วงปลายเดือน ก.ย. ซึ่งกระทบต่อสาขาชัยภูมิและนครราชสีมา แต่ทางฝ่ายวิจัยคาดว่า SSSG ไตรมาส 3/2564 ยังอยู่ในเกณฑ์ดีที่ 11% (เทียบกับลดลง 5.70% ในไตรมาส 3/2563 และเพิ่มขึ้น 35% ในไตรมาส 2/2564) จากการที่สินค้าแทบทุกกลุ่มมียอดขายเพิ่มขึ้น และราคาเหล็กยังสูงกว่าปีก่อน
ขณะที่การล็อกดาวน์มีผลกระทบจำกัด เนื่องจาก GLOBAL มีการขายหลังร้านและทางออนไลน์อีกทั้งไม่มีสาขาในกรุงเทพฯ โดยสาขาส่วนใหญ่ 40% อยู่ในภาคอีสาน นอกจากนี้บริษัทได้เปิดสาขาใหม่ 1 แห่งที่อุดรธานี ทำให้มีสาขาเพิ่มขึ้น 6 สาขาจากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 74 สาขา ซึ่งประเมินว่ายอดขายไตรมาส 3/2564 จะเพิ่มขึ้น 14% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 7,365 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากไตรมาสก่อน ตามยอดขายที่ชะลอลง เนื่องจากเข้าสู่โลว์ซีซั่น ที่เป็นหน้าฝน และราคาเหล็กปรับตัวลดลง แต่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการที่ยอดขายเติบโตดี การปรับเพิ่มราคาสินค้า House brand รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ขณะที่สัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขาย คาดว่าลดลงเป็น 15.60% จาก 16.90% ในไตรมาส 3/2563 จากการประหยัดจากขนาด ดังนั้นทางฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 39% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 631 ล้านบาท
สำหรับน้ำท่วมส่งผลกระทบต่อยอดขายในระยะสั้น สินค้าบางส่วนที่เสียหายอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของประกันภัย โดยเมื่อสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย คาดว่ายอดขายจะฟื้นตัวขึ้นจากความต้องการสินค้าปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน ซึ่งทางฝ่ายวิจัยคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4/2564 ยังคงเติบโตสูงจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยผลักดันจากทั้งยอดขายและอัตรากำไรเพิ่มขึ้น รวมทั้ง GLOBAL อาจมีการเปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง ขณะที่ฐานะการเงินแข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน 0.70 เท่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 27 บาท