ดาวโจนส์ปิดบวก ตลาดคาดเฟดยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 33.74 จุด หรือ 0.20% ปิด (9 ต.ค.) ที่ 17,084.49 จุด, ดัชนี S&P 500 บวก 1.46 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 2,014.89 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับขึ้น 19.68 จุด หรือ 0.41% ปิดที่ 4,830.47 จุด

ตลาดปรับตัวแข็งแกร่งต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนจำนวนมากมองว่าเฟดอาจจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 16-17 ก.ย. ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังคงค่อนข้างต่ำ และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นปีหน้า

นอกจากนี้ นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก ยังออกมาแสดงความเห็นว่า สถานการณ์ในต่างประเทศและภาวการณ์ทางการเงินเมื่อเร็วๆนี้ ทำให้เกิดความไม่แน่ใจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของแนวโน้มเศรษฐกิจโลก สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าร่วงลง 0.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวลงจากผลกระทบของดอลลาร์ที่แข็งค่า และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ ราคานำเข้าอาหารและสินค้าทุนต่างปรับตัวลงในเดือนก.ย. ขณะที่ราคาสินค้าเพื่อผู้บริโภค และพลังงานดีดตัวขึ้น

หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 2.4% ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แต่หุ้นอัลโค ร่วง 6.8% หลังบริษัทเปิดเผยว่า กำไรในไตรมาส 3/2558 อยู่ที่ 44 ล้านดอลลาร์ หรือ 2 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 149 ล้านดอลลาร์ หรือ 12 เซนต์ต่อหุ้น รายงานระบุว่า สาเหตุที่ทำให้กำไรของอัลโคลดลงอย่างมากในไตรมาส 3 นั้น มาจากการที่บริษัทปิดเหมืองหลายแห่ง และปรับลดกำลังการถลุงแร่เหล็ก หลังจากราคาอลูมินัมอ่อนแรงลง

Back to top button