NCAP-AMANAH กอดคอร่วง! โบรกฯ ชี้คุมดบ.เช่าซื้อรถยนต์ 15% กระทบรายได้หนักสุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(14 ต.ค.2564) ราคาหุ้นบริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ NCAP ณ เวลา 15:38 น.อยู่ที่ระดับ 9.50 บาท ลบ 0.60 บาท หรือ 5.94% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 225.17 ล้านบาท

ส่วนบริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)  หรือ AMANAH ณ เวลา 15:55น.อยู่ที่ระดับ 4.92 บาท ลบ 0.08 บาท หรือ 1.60% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 48.52 ล้านบาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(14 ต.ค.2564) ว่า NCAP และ AMANAH จะได้รับผลกระทบมากที่สุด หากมีการปรับเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อลงเหลือ 15% ในกลุ่มรถยนต์ จักรยานยนต์ แทรกเตอร์ และยานยนต์ สำหรับทำฟาร์ม

โดยจะส่งผลเชิงลบต่องบกำไรขาดทุนของ NCAP ปี 2565 และยังเป็นข่าวที่ให้ผลเชิงลบด้าน sentiment อีกเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อตัวเลขกำไรนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณา และระยะเวลาการบังคับใช้มาจรการของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค

ทั้งนี้อ้างอิงจาก consensus กำไรของ NCAP ปี 2565-66 อยู่ที่ 330 ล้านบาท และ 363 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้คาดว่าสัดส่วนกำไรต่อการถือหุ้นของ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 จากสัดส่วน 33.9% ใน NCAP ปี 2565-66 จะอยู่ราว 112 ล้านบาท และ 123 ล้านบาท ตามลำดับ หรือ 4.8% และ 4.6% ของกำไร COM7 โดยจะส่งผลบวกต่อราคาเป้าหมายของ COM7 2.68 บาท (ราคาเป้า 70.87 บาท) และทุกๆ 10% ของราคาหุ้น NCAP ที่ลดลง จะส่งผลต่อราคาเป้าหมาย COM7 1%

ด้านบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX จะมีกำไรจาก NCAP อยู่ที่ 88 ล้านบาท และ 97 ล้านบาท จากสัดส่วนที่ถืออยู่ 26.7% คิดเป็น 9.5% และ 8.9% ของกำไร SYNEX ในปี 2565-66 และจะส่งผลบวกต่อราคาเป้าหมายของ SYNEX 2.35 บาท (ราคาเป้า 31.21 บาท) และทุกๆ 10% ของราคาหุ้น NCAP ที่ลดลงจะส่งผลต่อราคาเป้าหมาย SYNEX 0.6%

อย่างไรก็ตามคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น Gadget โดยยกให้ SYNEX เป็นท็อปพิก มองว่าธุรกิจค้าส่ง-ปลีกสินค้า IT จะยังคงมียอดขายที่แข็งแกร่งไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า จาก 1) มาตรการ Work from Home / Work at Office ในหลายๆบริษัท 2) สินค้า IOT ที่หลากหลายในราคาที่เข้าถึงได้สำหรับทุกครัวเรือน 3) ดีมานด์ที่สูงขึ้นจากการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในบริษัท

ทั้งนี้ บล.กสิกรคาดว่า ราคาหุ้นของ SYNEX และ COM7 จะได้รับผลกระทบระยะสั้นจากเรื่องของการปรับเพดานดอกเบี้ยที่ยังคงรอความชัดเจนอยู่