TM บวกแรง 9% ลุ้นผลงานไตรมาส 3 โตเด่น รับยอดขาย ATK พุ่ง หนุนทั้งปีมีกำไร
TM บวกแรง 9% โดย ณ เวลา 16:22 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ 3.58 บาท บวก 0.30 บาท ลุ้นผลงานไตรมาส 3 โตเด่น รับยอดขาย ATK พุ่ง หนุนทั้งปีมีกำไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ต.ค. 2564) ราคาหุ้นบริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ TM ณ เวลา 16:22 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ 3.58 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 9.15% โดยทำจุดสูงสุดที่ 3.64 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 3.32 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 58.65 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TM เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปี 2564 อยู่ที่ 700 ล้านบาท และจะมีกำไรแน่นอน แม้ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 (ม.ค.-มิ.ย. 2564) บริษัทจะมีรายได้ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5% มาอยู่ที่ 291.13 ล้านบาทก็ตาม
เนื่องจากมั่นใจว่าผลประกอบการช่วงไตรมาส 3 นี้ (ก.ค.-ก.ย. 2564) จะเติบโตสูงมากจากการจำหน่ายสินค้าชุดตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 (Antigen Test Kit : ATK) ที่บริษัทได้เริ่มจำหน่ายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 ทั้งแบบ professional use และ home use ให้กลุ่มโรงพยาบาลรัฐบาลและเอกชน รวมถึงกลุ่มสมาคมร้านขายยาเวชภัณฑ์ และกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันมียอดขายที่ 100 ล้านบาทแล้ว
นอกจากนี้หากรัฐบาลเปิดประเทศได้จริงในช่วงไตรมาส 4/2564 (ต.ค.-ธ.ค. 2564) ก็จะส่งผลให้สินค้าจำพวกเครื่องมือผ่าตัด และธนาคารเลือด กลับมาจำหน่ายได้มากขึ้น ซึ่งในปี 2565 บริษัทยังมีแผนนำเข้าผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผ่าตัดสมองมาจำหน่ายด้วย ซึ่งสินค้าประเภทนี้จะมีกำไรขั้นต้นสูง จากเดิมผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายจะเกี่ยวข้องกับการผ่าตัดหัวใจ
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทได้ขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของ TM ได้ง่ายขึ้น คือ จำหน่ายผ่าน www.tmcare-shop.com / FacebookPage / และ Line@ : @tmcareshop เช่น เจลล้างมือ PURELL, หน้ากาก Life 3D Surgical Mask, ชุด PPE, สเปรย์ปรับอากาศฆ่าเชื้อโรค (Callington), น้ำยาฆ่าเชื้อ Netbiokem และ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ KOYO เป็นต้น
สำหรับความคืบหน้าโครงการ THE PARENTS ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และโรงพยาบาลเฉพาะทางขนาด 150 เตียงวงเงินลงทุน 450 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคาร 2 แห่ง ประกอบด้วยอาคาร Nursing Home และอาคาร Rehabilitation Hospital นั้น จะเริ่มเปิดให้บริการได้ช่วงไตรมาส 1/2566 (ม.ค.-มี.ค. 2566) โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือประชากรสูงอายุในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครฝั่งเหนือและตะวันตก ซึ่งผู้ใช้บริการจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนตั้งแต่ 45,000 บาทขึ้นไป และหาก THE PARENTS ได้รับการตอบรับที่ดี บริษัทยังมีแผนขยายสาขาออกไปยัง 4 มุมเมืองของกรุงเทพฯ และภูมิภาคขนาดใหญ่ เช่น หาดใหญ่ ภูเก็ต เชียงใหม่ด้วย