M ลุ้นกำไรไตรมาส 4 ฟื้นเด่นแตะ 400 ลบ. รับอานิสงส์เปิดเมือง แนะซื้อเป้า 62 บ.
M ลุ้นกำไรไตรมาส 4 ฟื้นเด่นแตะ 400 ลบ. รับอานิสงส์เปิดเมือง โบรกฯเชียร์ซื้อเป้า 62 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(19 ต.ค.64) ว่า บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M คาดกำไรไตรมาส 3/2564 จะขาดทุนมากขึ้นเป็น 249 ล้านบาท จาก 99 ล้านบาท ในไตรมาส 2/2564 และพลิกจากที่มีกำไร 465 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2563 (แย่กว่าที่เคยมองว่าจะขาดทุนราว 130 ล้านบาท) จากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้บริษัทต้องปิดให้บริการทานในร้าน และมีบางช่วงห้าม Delivery และ Takeaway กระทบถึง 80% ของสาขาทั้งหมด จึงคาด SSSG ไตรมาส 3/2564 ร้าน MK,Yayoi,LSC จะติดลบราว -48%,40% และ-55% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ
โดยคาดรายได้รวมไตรมาสนี้จะชะลอตัว -16.7% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, -45% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือว่าแย่กว่า ล็อกดาวน์ครั้งแรกในไตรมาส 2/2563 แม้จะได้ส่วนลดค่าเช่า และมีค่าใช้จ่ายพนักงานลดลง จากจำนวนพนักงานที่ลด 20% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลาออกแล้วไม่ได้รับเพิ่ม) แต่ด้วยรายได้ที่ถูกกระทบหนัก และ Fixed Cost สูง ทำให้ผลการดำเนินงานอ่อนลงค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตามหากไตรมาส 3/2564 เป็นไปตามคาดบริษัทมีจะมีผลขาดทุน 9 เดือนแรกปี 2564 ราว 261 ล้านบาท (พลิกจาก ที่กำไร 558 ล้านบาท ใน 9 เดือนปี 2563) เดิมที่เคยมองว่าไตรมาส 4/254 จะพลิกมีกำไรราว 130-150 ล้านบาท แต่สถานการณ์ปัจจุบันฟื้นตัวได้ดีกว่าคาด หลังผ่อนคลายล็อกดาวน์ กลับมาเปิดร้านได้ครบทุกสาขาอีกครั้ง นั่งทานในร้านได้ และขยายเวลาปิดร้านออกไปเป็น 4 ทุ่ม เท่ากับช่วงเวลาปกติแล้ว มีโอกาสที่จะเห็นกำไรไตรมาส 4/2564 พื้นสู่ระดับ 350-400 ล้านบาท ได้อีกครั้ง
โดยคาดปี 2564 จะมีกำไรสุทธิราว 113 ล้านบาท แย่ลงจาก 907 ล้านบาท ในปี 2563 แต่มองผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 3/2564 และการตอบรับที่ดีของลูกค้า จาก Traffic ที่เพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทันที หลังกลับมาเปิดร้าน ทำให้ยังเชื่อมั่นกับแบรนด์ที่แข็งแกร่งของบริษัท และหลังจากนี้หากเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวได้เมื่อไหร่ เชื่อว่าแบรนด์ แหลมเจริญจะกลับมาฟื้นโดดเด่นเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ยังคาดหวังการฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2565 ทั้งการเติบโตของสาขาเดิม และมีแผนกลับมาเปิดสาขาใหม่ทันที่เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 4/2564 ที่จะเปิดสาขา 18 สาขา (เป็นสาขาที่สร้างไว้เสร็จแล้วในช่วงก่อนหน้า จึงยังคาดกำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 2,254 ล้านบาท ยังคงต่ำกว่าช่วงก่อน COVID-19 เล็กน้อย และคงราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 62 บาท (ถึง PE เดิม 25 เท่า)