SET ยังไม่มีปัจจัยใหม่ พรุ่งนี้ทรงตัว จับตาทิศทางดบ.สหรัฐ
บล.ทรีนีตี้ มองแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (13 ต.ค.) เชื่อว่าตลาดยังคงแกว่งตัว โดยมองว่าสัปดาห์นี้ดัชนีคงบวกแบบไม่น่าตื่นเต้นเหมือนสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมให้จับตาประธานเฟดหลายสาขาที่จะทยอยออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พร้อมให้แนวรับ 1,390 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบ และอยู่ในทิศทางที่อ่อนกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก เนื่องจากตลาดจีนบวกแรงถึง 3% จากการเก็งนโยบายการเงินของจีน โดยคาดว่าธนาคารกลางของจีนอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และ/หรือ ลดสัดส่วนการตั้งสำรองฯลงอีกเพื่อเพิ่มสภาพคล่องภายในประเทศ
ส่วนตลาดบ้านเราปรับตัวขึ้นมามากแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ valuation ของตลาดเริ่มตึงตัว เพราะ Earning จะยังตามไม่ทัน โดยทางฝ่ายวิจัยก็แนะให้”ทยอยขายทำกำไร”เนื่องจากดัชนีฯขึ้นมาชนแนวต้านของเดือนนี้ที่ 1,410 จุดเป็นระดับที่คำนวณไว้ และรับข่าวเรื่องธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปพอควรแล้ว ซึ่งดัชนีฯสะท้อนปัจจัยบวกไปมากแล้ว ดังนั้น จึงมี upside ไม่น่าสนใจเท่ากับสัปดาห์ก่อน
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (13 ต.ค.) เชื่อว่าตลาดยังคงแกว่งตัว โดยมองว่าสัปดาห์นี้ดัชนีคงบวกแบบไม่น่าตื่นเต้นเหมือนสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมให้จับตาประธานเฟดหลายสาขาที่จะทยอยออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พร้อมให้แนวรับ 1,390 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก
TIPCO ปิดที่ 22.90 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
TRUE ปิดที่ 10.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
JAS ปิดที่ 5.50 บาท ลดลง 0.15 บาท
PTT ปิดที่ 270.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
TASCO ปิดที่ 38.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท