3 หุ้นโรงกลั่น ดีดรับค่าการกลั่นฟื้น โบรกฯชู SPRC เด่นสุด แนะ “ซื้อ” อัพเป้า 13.20 บ.
3 หุ้นโรงกลั่น เด้งรับค่าการกลั่นฟื้นตัวเร็ว รับแรงหนุนจากเดินทางที่เพิ่มขึ้น, การเปลี่ยนก๊าซเป็นน้ำมัน, และความต้องการใช้เชื้อเพลิงเมื่อสภาพอากาศที่หนาว ทั้งนี้โบรกฯชู SPRC เด่นสุดจากอัตรากำไรฟื้นตัว แนะ “ซื้อ” อัพเป้า 13.20 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (20 ต.ค.2564) ปิดตลาดภาคเช้า ราคาหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นต่างปรับตัวขึ้น นำทีมโดย บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC อยู่ที่ระดับ 11.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 4.67% โดยทำจุดสูงสุดที่ 11.20 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 10.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 171.98 ล้านบาท
ขณะเดียวกันราคาหุ้น บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC อยู่ที่ระดับ 4.64 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือ 1.75% โดยทำจุดสูงสุดที่ 4.66 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 4.56 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 554.91 ล้านบาท
ส่วนราคาหุ้น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP อยู่ที่ระดับ 57.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.44% โดยทำจุดสูงสุดที่ 57.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 56.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 614.35 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ต.ค.2564) ว่า จากการกลั่นที่ฟื้นตัวเร็วและแข็งแกร่งมากกว่าที่ทางฝ่ายวิจัยคาดการณ์ โดย GRM เฉลี่ยของ Singapore ได้เพิ่มขึ้นแตะ 7 ดอลลาร์/บาร์เรล สูงสุดนับจากปลายปี 2560 และต้นปี 2561 ซึ่งทางฝ่ายวิจัยได้รวมสมมุติฐานใหม่ในประมาณการของทางฝ่ายวิจัยแล้วจากบทวิเคราะห์ราคาน้ำมันล่าสุดของ Jefferies พันธมิตรด้านงานวิจัยของทางฝ่ายวิจัย ทั้งนี้จึงได้ปรับประมาณการผลประกอบการไตรมาส 3/2564 โดยได้ปรับประมาณการของ SPRC, TOP และ IRPC ขึ้น
อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยมองว่ามีปัจจัยหลายด้านที่คอยหนุนตลาดการกลั่นจนถึงช่วงสิ้นไตรมาส 1/2565 ทั้งการเดินทางที่เพิ่มขึ้นใน APAC ที่หนุนโดยอุปสงค์ของน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มโรงกลั่นขั้นกลางก็ได้ประโยชน์จากการเดินทางระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น, การเปลี่ยนก๊าซเป็นน้ำมัน และสภาพอากาศที่หนาว โดยทาง US National Oceanic and Atmospheric Administration มองว่ามีโอกาส 87% ที่ La Nina จะต่อเนื่องไปจนถึงเดือน ก.พ. 2565 ในเชิงของอุปทานการส่งออกของจีนยังอยู่ในระดับต่ำท่ามกลางอุปสงค์ในประเทศที่สูง และมีการจำกัดโควต้า, Saudi Aramco’s Jizan refinery (450 kbpd) กำลังประสบปัญหาในการเพิ่มกำลังการผลิต
นอกจากนี้ในเดือน ม.ค. – เม.ย. เป็นช่วงที่โรงกลั่นทั่วโลกปิดปรับปรุง และทำให้สต็อกต่ำสุดในรอบ 5 ปี แต่อย่างไรก็ตาม มองว่า Premium จะเปลี่ยนแปลงไม่มาก เนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งชดเชยจากแผนการเพิ่มกำลังการผลิตของ OPEC+
สำหรับในกลุ่มของพลังงานปลายน้ำไม่รวม SCC คาดว่าจะมีผลประกอบการลดลง 54% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 5 เท่า จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากไม่มีรายการพิเศษจากสต็อกทำให้ผลประกอบการลดลงจากไตรมาสก่อน ในขณะที่จากงวดเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นจากราคาของเคมี และการกลั่นที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยมองว่ากลุ่มโรงกลั่นของไทยมีโอกาสการปรับประมาณการขึ้น โดยเฉพาะ SPRC ที่มีอัตรากำไรฟื้นตัว แต่ราคายังซื้อขายที่ส่วนลด ทำให้เป็นหุ้นแนะนำของกลุ่มโรงกลั่น แนะนำ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 13.20 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 9.9 บาท