DDD บวก 4% ลุ้นไตรมาส 4 ยอดขายฟื้นเด่น รับคลายล็อกดาวน์ มั่นใจรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 30%
DDD บวก 4% ลุ้นไตรมาส 4 ยอดขายฟื้นเด่น รับคลายล็อกดาวน์ มั่นใจรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 30% โดย ณ เวลา 10:49 น. อยู่ที่ 19.42 บาท บวก 0.70 บาท หรือ 3.74%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(26ต.ค.2564)ราคาหุ้นบริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ณ เวลา 10:49 น. อยู่ที่ 19.42 บาท บวก 0.70 บาท หรือ 3.74% สูงสุดที่ 19.80 บาท ต่ำสุดที่ 18.80 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 103.68 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้(6ก.ย.64) นายปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน DDD เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตตามเป้าที่ 20-30% ตามที่เคยตั้งไว้ แม้จะเผชิญความท้าทายจากมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงไตรมาส 2-3/64 ส่งผลกระทบต่อช่องทางจำหน่ายโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) แต่ยังคงมองเห็นการฟื้นตัวในไตรมาส 4/64 หลังเริ่มมีการคลายมาตรการล็อกดาวน์ และเปิดห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้ยอดขายกลับเข้ามามากขึ้น
อีกทั้งในไตรมาส 3/64 บริษัทยังคงเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่เลื่อนการเปิดตัวมาจากไตรมาส 2/64 เนื่องจาก Sentiment ของตลาดที่ชะลอตัว เช่น ผลิตภัณฑ์สเปรย์พ่นปากและลำคอที่มีส่วนผสมของฟ้าทะลายโจร ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย รวมไปถึงการออกสินค้าที่มีขนาดเล็กลงและมีราคาที่เข้าถึงง่ายมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคอีกด้วย
นอกจากนี้บริษัทยังเปิดตัวแบรนด์สินค้าใหม่อย่าง “N LIFE PLUS” ตอบโจทย์กระแสผู้บริโภคที่หันมาสนใจสุขภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ Probiotic Multivitamins ABC+ เพื่อส่งเสริมระบบลำไส้และภูมิคุ้มกัน, Ginger Plus Shot สารสกัดจากขิง ที่ออกแบบมาให้รับประทานได้โดยง่าย และ Black Glutinous Rice Series ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมจากสารสกัดธรรมชาติ
ด้านตลาดต่างประเทศ อย่างฟิลิปปินส์มีการเติบโตเป็นอย่างดี แม้จะเผชิญการแพร่ระบาดโควิด-19 เนื่องจากผู้บริโภคยังคงซื้อสินค้าออนไลน์ได้ตามปกติ และทางบริษัทก็ได้จำหน่ายสินค้าหลากหลายแบรนด์ทั้ง Snailwhite, Sparkle หรือ Oxe’cure และยังคงวางแผนออกสินค้า SKU ใหม่ ๆ ประกอบกับมีแผนการตลาดที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างหลากหลาย ทำให้ปัจจุบันรายได้จากประเทศฟิลิปปินส์คิดเป็นสัดส่วน 20% ของรายได้ทั้งหมด และคาดว่าในปีนี้รายได้จากประเทศฟิลิปปินส์จะโตขึ้น 20-30% จากปีก่อน
นายปิยวัชร กล่าวว่า บริษัทยังคงแผนเจรจาซื้อกิจการ (M&A) 1 ปี 1 ดีล คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในไตรมาส 4/64 หลังมาตรการ Lockdown และ Work From Home ทำให้การเจรจาต้องชะลอออกไป ด้านความคืบหน้าของผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกัญชาและกัญชงก็คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 4/64 เช่นกัน