KCE แกร่งกว่าตลาด เก็งกำไร Q3/58 โตกว่า 23%

KCE แกร่งกว่าตลาด โดยราคาหุ้นปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ 60.25 บ. บวก 2 บ. หรือ 3.43% สูงสุดที่ 60.25 บ. ต่ำสุดที่ 59.25 บ. มูลค่าซื้อขายที่ 80.54 ลบ. ด้าน บล.เอเชีย พลัส คาดกำไร Q3/58 ของ KCE เท่ากับ 605 ลบ. เพิ่มขึ้นถึง 23.5% ทั้งนี้ให้ราคาเป้าหมาย 73 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE ปิดตลาดภาคเช้าราคาอยู่ที่ 60.25 บาท บวก 2 บาท หรือ 3.43% สูงสุดที่ 60.25 บาท ต่ำสุดที่ 59.25 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 80.54 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมลบ 0.58%

 

 

บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ KCE เมื่ออ่อนตัว” โดยเชื่อว่าราคาหุ้นได้สะท้อนการฟื้นตัวของธุรกิจในปี 2558 ไปมาก ช่วงสั้นจึงเน้นลงทุนเมื่ออ่อนตัว อย่างไรก็ตาม มีแผนที่จะเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ ภายหลังประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/58 ในช่วงกลางเดือน พ.ย.58 พร้อมกับใช้ Fair value ปี 2559 ที่ 73 บาท ทำให้เกิด upside ขึ้นราว 25% 

ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/58 ของ KCE เท่ากับ 605 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 23.5% จากไตรมาสก่อนแต่ยังทรงตัวจากงวดเดียวกันของปีก่อน หนุนด้วยการเติบโตของกำไรจากธุรกิจหลักเท่ากับ 634 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 25.3% จากไตรมาสก่อนและ 33.8% จากปีก่อน จากคาดการณ์รายได้รวมที่ขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรายไตรมาส เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูกาล

อย่างไรก็ตามคงประมาณการผลการดำเนินงานปี 2558 แต่ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2559 ขึ้น 5.1% จากเดิม โดยเพิ่มสมมติฐาน gross margin ขึ้นเป็น 32.0% ทั้งนี้ ภายหลังปรับปรุงประมาณการ คาดกำไรสุทธิปี 2559 จะเติบโตถึง 27.1% จากปีก่อน จากแนวโน้มคำสั่งซื้อที่จะทยอยเพิ่มขึ้นจากลูกค้าเก่าและการหาลูกค้าใหม่ ผนวกกับความต้องการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

โดยเฉพาะแผ่น PCB สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่สูงขึ้น ผลจากสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์ปัจจุบันที่สูงขึ้นสำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 จะอ่อนตัวลง 4.9% จากไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นปกติหลังพ้นช่วง peak

Back to top button