เปิดโผ 11 หุ้น SET100 ราคา Laggard ชู SCC-BTS-EPG-SAPPE อัพไซด์สูงเกิน 20%
เปิดโผ 11 หุ้น SET100 ราคา Laggard ชู SCC-BTS-EPG-SAPPE อัพไซด์สูงเกิน 20%
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในกลุ่ม SET100 ราคา Laggard ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มานำเสนอ โดยครั้งนี้รวบรวมข้อมูลโดยอ้างอิงบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งระบุไว้ดังนี้ แนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นใน SET100 ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ที่มีราคาปรับลดลงในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมามากกว่าตลาดที่ปรับ เพิ่มขึ้น 0.3% (SET) และมี upside สูงเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายเฉลี่ยของ Bloomberg Consensus
โดยหุ้นที่น่าสนใจ 10 ตัว ประกอบไปด้วย ลำดับที่ 1.บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT ราคาปรับลดลง 9.2% ใน 1 เดือนและมี upside 14% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 13.54 บาท,ลำดับ 2. บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH ราคาปรับลดลง 8.1% ใน 1 เดือน และมี upside 31% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 26.80 บาท,ลำดับ 3. บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ราคาปรับลดลง 7.6% ใน 1 เดือนและมี upside 37% จากราคาเป้าหมาย เฉลี่ยที่ 14.90 บาท
ลำดับ 4. บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA ราคาปรับลดลง 7.0% ใน 1 เดือนและมี upside 12% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 51.85 บาท,ลำดับ 5. บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ราคาปรับ ลดลง -6.5% ใน 1 เดือน และมี upside 33% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 33.50 บาท
ลำดับ 6. บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG ราคาปรับลดลง 5.5% ใน 1 เดือน และมี upside 22 จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 145.75 บาท,ลำดับ 7. บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ราคาปรับลดลง -5.0% ใน 1 เดือน และมี upside 18% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 2447 บาท
ลำดับ 8. บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ราคาปรับลดลง -5.0% ใน 1 เดือน และมี upside 22% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ย 40.63 บาท,ลำดับ 9. บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC ราคาปรับลดลง 4.4% ใน 1 เดือน และ มี upside 28% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 503 บาท,
ลำดับ 9. บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ราคาปรับลดลง 3.8% ใน 1 เดือน และมี upside 18% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ย ที่ 222 บาท,ลำดับ 10. บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA ราคาปรับลดลง 1.8% ใน 1 เดือน และมี upside 4% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 83.21 บาท และลำดับ 11. บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ราคาปรับลดลง – 1.6% ใน 1 เดือน และมี upside 27% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ย 11.98 บาท.
อย่างไรก็ตามมองแนวโน้มภาวะตลาดในช่วงก่อนที่งบไตรมาส 3/2564 กลุ่มสถาบันการเงินจะทยอยประกาศ โดยดัชนี SET ก็สามารถขึ้นมายืนที่ 1,650 จุดได้ จากแรงหนุนของแรงซื้อเก็งงบไตรมาส 3/2564 กลุ่มสถาบันการเงิน กลุ่มท่องเที่ยวตามมาตรการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.และหุ้นพลังงานตามราคาน้ำมัน
โดยกลุ่มที่มองว่าจะมีผลกับดัชนี SET ให้ดีดตัวขึ้นไปต่อทะลุ 1,650 จุด คือแรงซื้อเก็งงบไตรมาส 3/2564 กลุ่มพลังงานปิโตรเคมี เพราะน่าจะเป็นกลุ่มที่งบในไตรมาส 3/2564 จะเด่นและต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 4/2564 ที่จะออกมาดีมากๆ ทั้งเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบไตรมาสก่อนหน้า ส่วนงบ 12 เดือนล่วงหน้าของตลาดไทย พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังประกาศงบไตรมาส 3/2564
ทั้งนี้หากดัชนี SET ขึ้นยืนทะลุ 1650 จุดได้ ก็น่าจะขึ้นต่อไปที่ 1,680-1,690 จุด จากแรงหนุนของ งบหุ้นกลุ่มพลังงาน การเปิดประเทศ และ การค่อยๆ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ โดยมีกลุ่มที่หนุนดัชนีคือ พลังงาน ปิโตรเคมี ธนาคาร ท่องเที่ยว ค้าปลีก ส่วนความเสี่ยงในช่วงเดือนปลาย ต.ค.ถึง พ.ย. คือ การปรับฐานของตลาดหุ้นสหรัฐและเสถียรภาพของรัฐบาลเพราะรัฐบาลจะต้อง ผ่านกฎหมายสำคัญๆ อีกหลายฉบับ หากไม่ผ่านรัฐบาลก็ไปไม่รอด
โดยมองว่าดัชนีน่าจะไปต่อที่เป้าหมายที่วางไว้คือเหนือ 1,650 จุด มาจาก 1. รัฐบาลน่าจะยังสู้ต่อดูจากการออกนโยบายเปิดประเทศ, 2.กลุ่มพลังงานจะเป็นตัวหนุนดัชนีหลังจากนี้ และราคา น้ำมันน่าจะยังทรงตัวสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง,3.จะมีการเปลี่ยนมุมมองกำไรของตลาดหุ้นไทยรวมทั้งอาเซียนหลังจากนี้ในทางที่ดีขึ้นมาก และจะมีเม็ดเงินไหลเข้า, 4. ผลของมาตรการเปิดประเทศน่าจะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2564 และไตรมาส 1/2565 และ 5. น้ำหนักของ MSCI เดือน พ.ย. ที่คาดว่าน่าจะ ได้รับเพิ่มน้ำหนักหลังถูกปรับลดมาอย่างต่อเนือง
ทั้งนี้คาดงบไตรมาส 3/2564 ของกลุ่มที่ไม่ใช่สถาบัน การเงินธนาคารจะค่อยๆ ทยอยประกาศ ซึ่งยังต้อติดตามเป็นรายตัว ดังนั้นกลยุทธ์ในช่วงนี้เหมาะ สำหรับการลงทุนหุ้นในกลุ่มที่จะไปต่อได้ตามภาวะที่เป็นอยู่คือ กลุ่ม พลังงาน,ท่องเที่ยว,ค้าปลีก,ธนาคาร
*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน