ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ หลังข้อมูลชี้จีนชะลอตัว
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) เนื่องจากข้อมูลการค้าที่ซบเซาของจีน โดยเฉพาะยอดส่งออกที่ร่วงลงอย่างหนักนั้น ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีนซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.9% ปิด (13 ต.ค.) ที่ 358.47 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,643.38 จุด ลดลง 45.32 จุด หรือ -0.97%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,032.82 จุด ลดลง 87.01 จุด หรือ -0.86% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,342.28 จุด ลดลง 28.90 จุด หรือ -0.45%
ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงหลังจากสำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยว่า การส่งออกของจีนในเดือนก.ย.ลดลง 1.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 1.3 ล้านล้านหยวน หลังจากที่ร่วงลง 6.1% ในเดือนส.ค. ขณะที่การนำเข้าเดือนก.ย.ร่วงลง 17.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 9.24 แสนล้านหยวน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงกว่าเดือนส.ค.ที่ลดลง 14.3% ทั้งนี้ การร่วงลงอย่างหนักของยอดการนำเข้าส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 96.1% สู่ระดับ 3.762 แสนล้านหยวน (5.95 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากระดับ 3.68 แสนล้านหยวนในเดือนส.ค.
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ร่วงลงอย่างน้อย 1.2% ขณะที่หุ้นยูบีเอส กรุ๊ป ปรับตัวลง 1.1% หลังจากกระทรวงการคลังสวิตเซอร์แลนด์วางแผนที่จะกำหนดให้ธนาคารรายใหญ่ของประเทศกันสำรองเงินทุนในสัดส่วน 5% ของสินทรัพย์โดยรวม, หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลง นำโดยหุ้นเกลนคอร์ ดิ่งลง 2.6% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 1.8% และหุ้น SABMiller พุ่งขึ้น 9% หลังจากบริษัทตกลงรับข้อเสนอเทคโอเวอร์จากบริษัท Anheuser-Busch InBev ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้น Anheuser-Busch InBev ดีดตัวขึ้น 1.7%