PLANB วิ่ง 4% หลังทุ่ม 50 ลบ. รุกตลาด “E-SPORT” หวังดึงแบรนด์สินค้าเจาะกลุ่มเป้าหมาย
PLANB บวก 4% รับลงทุน 50 ลบ. วางเครื่องมือสื่อครบวงจร รุกตลาด “E-SPORT” หวังดึงแบรนด์สินค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง คาดกำไรปกติปีนี้แตะ 50 ลบ. โบรกฯแนะ “ซื้อ” ชูเป้า 7.20 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (4 พ.ย. 2564) ราคาหุ้นบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB ณ เวลา 15:19 น. อยู่ที่ระดับ 6.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 3.97% โดยทำจุดสูงสุดที่ 6.60 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 6.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 102.55 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้นายนพชัย หวังรักษ์ ผู้จัดการอาวุโส PLANB ให้มุมมองต่อตลาด e-Sport ว่า ตลาด e-Sport ในประเทศไทยรวมถึงในระดับโลกมีการเติบโตขึ้นต่อเนื่องในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา และยิ่งมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นอีกจากปัจจัยเชิงบวกด้านต่างๆ เช่น รายการแข่งขันที่น่าสนใจ ความนิยมในตัวนักกีฬา
ทั้งนี้ PLANB จึงลงทุน 50 ล้านบาท วางเครื่องมือสื่อครบวงจร หวังดึง “แบรนด์สินค้า” เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง พร้อมต่อยอดการแข่งขัน “e-Football THAI LEAGUE 2022” โดยผนึกพันธมิตรฟุตบอลไทย ค้นหา “ผู้จัดการทีมอีสปอร์ต” หน้าใหม่ 16 สโมสรไทย ลีก ปูทางสายอาชีพอีสปอร์ตไทย ช่วยฟอร์มทีมแกร่งดูแล – ตอบทุกโจทย์ความต้องการของแบรนด์ โดยตั้งเป้ารายได้กว่า 80 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้การแข่งขัน e-Football THAI LEAGUE 2022 จะเป็นไปในรูปแบบ Base on Football จริง โดยนำเอาความสนุกตื่นเต้นในเกมฟุตบอลดิจิทัล มานำเสนอให้กับกลุ่มแฟนเกมและคนรักฟุตบอลทั้งไทยและต่างประเทศ ที่รับชมมากกว่า 5 – 6 ล้านคนต่อสัปดาห์ ผ่านการแข่งขันที่ดุเดือด รวดเร็ว ตามแบบฉบับของเกมกีฬาฟุตบอล รวมถึงรูปแบบการถ่ายทอดสดที่ให้ความรู้สึกสนุกและเร้าใจ ยาวนานกว่า 6 เดือนเต็ม
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (2 พ.ย. 2564) โดยมีมุมมองเป็นกลางจากข่าวข้างต้น ซึ่งที่ผ่านมาตลาด e-Sport ไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หากรายได้เป็นไปตามบริษัทคาด ทาฝ่ายวิจัยคาดจะช่วยเพิ่มกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 10 ล้านบาท หรือเป็น Upside ต่อประมาณกำไรที่ 1.60%
อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2564 ที่ 50 ล้านบาท ลดลง 64% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และปี 2565 ที่ 633 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 1154% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น V-shaped recovery สู่ระดับก่อนเกิด COVID จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหนุนงบโฆษณาฟื้นตัว ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำ “ซื้อ” คงราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 7.20 บาท อิงค่า PER ที่ 44.00 เท่า