หุ้นยุโรปปิดลบ ตลาดวิตกเงินเฟ้อจีนชะลอตัว
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) หลังจากจีนเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่อ่อนแรงลง ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก อาจจะชะลอตัวลงอีก
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับลง 0.7% ปิด (14 ต.ค.) ที่ 355.81 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,609.03 จุด ลดลง 34.35 จุด หรือ -0.74%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,915.85 จุด ร่วงลง 116.97 จุด หรือ -1.17% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,269.61 จุด ลดลง 72.67 จุด หรือ -1.15%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า เงินเฟ้อที่อ่อนแรงลงของจีนอาจบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของจีน โดยเมื่อวานนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 1.6% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากอัตราการขยายตัว 2.0% ในเดือนส.ค. รายงานของ NBS ระบุว่า ดัชนี CPI เดือนก.ย.ของจีนชะลอตัวลงเป็นครั้งแรก หลังจากที่ขยายตัวมากขึ้นมาเป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกัน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของยูโรโซน โดยสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนลดลง 0.5% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับผลกระทบจากการดิ่งลง 3.0% ของการผลิตในภาคพลังงาน และการร่วงลง 1.0% ในภาคสินค้าทุน ด้านรัฐบาลเยอรมนีประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจสู่ระดับ 1.7% ในปีนี้ จาก 1.8% ที่คาดการณ์ในเดือนเม.ย. โดยระบุถึงผลกระทบจากเศรษฐกิจของจีนและตลาดเกิดใหม่ที่ชะลอตัวลง
หุ้น ASML Holding ซึ่งเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดัคเตอร์รายใหญ่ของยุโรป ร่วงลง 4.4% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ ขณะที่หุ้นซอฟท์แวร์ เอจี ดิ่งลง 6.8% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัว โดยหุ้นเกลนคอร์ และหุ้นอันโตฟากัสต้า ต่างก็ปรับขึ้นกว่า 1.7% หลังจากราคาโลหะปรับตัวสูงขึ้น เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์