“ฟินันเซีย” เชียร์ซื้อ NETBAY เป้า 32.50 บ. มองกำไรปีนี้โต 17% ทะลุ 183 ลบ.
“ฟินันเซีย” เชียร์ซื้อ NETBAY เป้า 32.50 บ. มองกำไรปีนี้โต 17% ทะลุ 183 ลบ. ชูกลยุทธ์ต่อยอดลูกค้าใหม่-รักษาฐานลูกค้าเดิม
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(10 พ.ย.64) ว่า บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAY รายงานกำไรไตรมาส 3/2564 อยู่ที่ 38 ล้านบาท (ลดลง 3.2% ไตรมาสก่อนหน้า,โต 2% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ใกล้เคียงที่เราคาดไว้ที่ 37 ล้านบาท ผลการดำเนินงานปกติยังโตได้ตามเป้า ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคส่งออกนำเข้าที่ปรับตัวดีขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตามกำไรในระยะ สั้นยังถูกกดดัน เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากสิทธิประโยชน์ทางภาษี (BOI) ที่เพิ่งหมดลงตอนปลายไตรมาส 2/2564 ส่วน %SG&A to Sales ยังอยู่ในระดับปกติที่ 35.1% แนะนำซื้อ ประเมินมูลค่า NETBAY ได้ราคาเป้าหมายปี 2565 เท่ากับ 32.50 บาท คิดเป็น PE22 ที่ 30.6% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี PE ที่ 42.3x และ ค่าเฉลี่ย 2 ปี PE ที่ 34.7x
โดยคาดกำไรทั้งปี 2564 อยู่ที่ 183 ล้าน โต 16.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานในปีก่อน ส่วนผลการดำเนินงานในธุรกิจหลักยังโตได้อย่างมั่นคง ด้วยกลยุทธ์ต่อยอดลูกค้าใหม่ รักษาฐานลูกค้าเดิม ตั้งเป้ารายได้โต 10-15% ต่อปี แต่อัตรากำไรสุทธิจะยังถูกกดดันจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่หมดไปเมื่อปลายไตรมาส 2/2564 ซึ่งเป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น ไม่เกี่ยวข้องกับผลการดำเนินงานปกติของบริษัท
ส่วนธุรกิจใหม่อย่างโครงการ HAPYBot (หุ่นยนต์ทางการแพทย์),โครงการ Farm De Ville (ฟาร์มเกษตร อัจฉริยะ),โครงการโครนการเกษตร ยังอยู่ในช่วงศึกษาความเป็นไปได้ คาดจะเห็น ผลลัพท์อย่างมีนัยหลังปี 2566 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตามธุรกิจของ NETBAY เติบโตตามเทรนด์ Paperless ยึดหลักสะดวกกว่า เร็วกว่า และถูกกว่า ลูกค้าเก่า Switching Cost สูง ทำให้รายได้เป็น Recuring เกือบ 100% ประกอบกับการมี Barrier to Entry สูง ทำให้บริษัทยังสามารถองราคาค่าบริการไว้ได้ ในขณะที่มาร์จิ้นโดยรวมปรับตัวสูงขึ้นเพราะโครงสร้างต้นทุนเป็นแบบคงที่เกือบทั้งหมด สะท้อนผ่านอัตรากำไรขั้นต้นที่ทำได้สูงถึง 80% และมีอัตราการเติบโตของกำไรในอดีต CAGR (2559-2562) ถึง 26.1% ส่งผลให้มูลค่าของ NETBAY เหมาะสมที่จะซื้อขายกันในระดับ Premium เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมอื่น