(แก้ไข)SICT โชว์งบ Q3 กำไรโตทะลัก 445% รับรายได้นิวไฮ 3 ไตรมาสติดทะลุ 110.50 ลบ.
(แก้ไข)SICT โชว์งบ Q3 กำไรโตทะลัก 445% แตะ 12.80 ลบ. รับรายได้นิวไฮ 3 ไตรมาสติดทะลุ 110.50 ลบ.
บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SICT ผู้ออกแบบและจำหน่ายไมโครชิพอัจฉริยะสัญชาติไทย ที่ได้รับความไว้วางใจจากหลากหลายประเทศทั่วโลก ประกาศผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2564 มีกำไรสุทธิจำนวน 12.8 ล้านบาท เติบโตขึ้น 445% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ในส่วนของรายได้รวมในไตรมาสที่ 3 นี้ บริษัทสามารถทำ New High ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 กล่าวคือมีจำนวน 110.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นผลมาจากความต้องการสินค้าในตลาดที่ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่ามีปัจจัยท้าทายจากสถานการณ์ขาดแคลนไมโครชิพในตลาดและสถานการณ์โควิด-19 ที่ยืดเยื้อกว่าคาด แต่บริษัทก็สามารถบริหารจัดการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ตามเป้าหมาย โดยในไตรมาสที่ 3 นี้ กลุ่มระบบเข้า-ออกสถานที่และระบบการอ่านข้อมูล (Access Control/Reader Group) คิดเป็นสัดส่วนหลักของรายได้ที่เพิ่มขึ้น ตามมาด้วยกลุ่มระบบลงทะเบียนสัตว์ (Animal ID) กลุ่มระบบกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ (Immobilizer) และกลุ่ม NFC ตามลำดับ
ในส่วนของต้นทุนการผลิต บริษัทก็ยังคงควบคุมและบริหารจัดการให้อยู่ในระดับเดียวกับแผนงานที่วางไว้ได้ จากการบริหารจัดการต้นทุนและสินค้าคงคลังที่ดี แม้ว่าราคาวัตถุดิบบางส่วนมีการปรับราคาขึ้นไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การขาดแคลนไมโครชิพในตลาด อันเนื่องมาจากกำลังการผลิตที่ไม่พอเพียงต่อความต้องการของตลาดของโรงงานรับจ้างผลิตไมโครชิพ ยังคงเป็นปัจจัยท้าทายในด้านต้นทุนและความสามารถในการส่งมอบสินค้า รวมไปถึงการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาด ซึ่งปัจจัยความท้าทายเหล่านี้คาดว่าจะคงอยู่ไปจนถึงสิ้นปีหน้า ซึ่งบริษัทได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมแผนงานเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว
เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทได้มีการส่งมอบ NFC Sticker จำนวน 33,000 ชิ้น ให้กับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข โดยมีอธิบดีกรมอนามัย เป็นตัวแทนในการรับมอบ ซึ่ง NFC Sticker ดังกล่าวจะใช้งานร่วมกับระบบรับรองบุคคล เพื่อเข้ากิจกรรมหรือกิจการในสถานการณ์ COVID-19 ในการคัดกรองความเสี่ยง เพื่อให้สถานประกอบการมีความปลอดภัยและมั่นใจในการให้บริการกิจการและกิจกรรมต่างๆ ได้ด้วยเทคโนโลยีรับรองบุคคล ที่สะดวก รวดเร็วและแม่นยำ
นอกจากนี้ ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน บริษัทมีการจัดกิจกรรมสัมมนาทางออนไลน์ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พร้อมทั้งหน่วยงานภาครัฐ และพันธมิตรทางธุรกิจ ในชื่องาน Thailand Anti-Counterfeiting Forum 2021 ภายใต้หัวข้อ “สร้างโอกาส พัฒนา ต่อยอดศักยภาพอุตสาหกรรมไทยกับการใช้เทคโนโลยี: ไร้การปลอมแปลง สร้างมูลค่าแบรนด์ และความผูกพันกับลูกค้า” มีวัตถุประสงค์เพื่อลดปัญหาสินค้าไทยถูกปลอมแปลง ลอกเลียนแบบ หรือสวมสิทธิ์ ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางด้านเทคโนโลยี และสร้างการโซลูชั่น เพื่อลดและป้องกันการปลอมแปลงในสินค้าไทย โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวอย่างจากหลายภาคส่วนทั้งภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมที่หลากหลาย