TIDLOR บวก 3% ลุ้นเข้า FTSE หลังติด MCSI Global Small Cap หวังดึงเม็ดเงินสถาบันลงทุน
TIDLOR บวก 3% โบรกฯแนะนำ “ซื้อ” เป้า 56 บ. เล็งเข้าดัชนี FTSE หลังติด MCSI Global Small Cap มีผล 30 พ.ย.นี้ หนุนสถาบันลงทุนมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (17 พ.ย.2564) ราคาหุ้น บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR ณ เวลา 11:06 น. อยู่ที่ระดับ 37.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 2.72% โดยทำจุดสูงสุดที่ 38.25 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 37.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 634.55 ล้านบาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯ ว่า หลังจาก TIDLOR ถูกคัดเลือกเข้าคำนวณในดัชนี MSCI Global Small Cap มีผลในวันที่ 30 พ.ย.นี้ และมีโอกาสที่จะได้คัดเลือกเข้าคำนวนในดัชนี FTSE ซึ่งทำให้หุ้นได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันมากขึ้น
ขณะที่ราคาหุ้นลดลงมากว่า 20% นับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดวันแรก (10 พ.ค. 2564) และราคาปัจจุบันที่ 36.75 บาท ใกล้กับราคาจอง IPO ที่ 36.50 บาทแล้ว
สำหรับในเชิงกลยุทธ์แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ปัจจัยเสี่ยง คือ การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบของทางการที่อาจกระทบต่อรายได้และกำไรในประมาณการ แต่เชื่อว่าเกณฑ์ใหม่จะไม่ถึงกับรุนแรงมาก เพราะที่ผ่านมาบริษัทไฟแนนซ์ได้ช่วยเหลือลูกหนี้แล้วพอควร และสภาพเศรษฐกิจในปี 2565 มีแนวโน้มดีขึ้น อย่างไรก็ดีอัตราดอกเบี้ยจะไม่สูงมากเหมือนในอดีตก่อนมีโควิดแน่นอน
ด้านผลประกอบการไตรมาส 3/2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 813 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และ เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นไปตามคาด
ทั้งนี้สินเชื่อและรายได้ Fee ในไตรมาส 3/2564 เติบโตได้ แต่ NIM ลดลง รวมถึงตั้งสำรอง ECL สูงขึ้น โดยสินเชื่อโต เพิ่มขึ้น 16.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3.20% จากไตรมาสก่อน เป็น 5.66 หมื่นล้านบาท แม้ช่วงเดือน ก.ค. – ส.ค.2564 จะมีล็อกดาวน์ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน เพราะมีลดอัตราดอกเบี้ยตามมาตรการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายได้ Fee เพิ่มขึ้น 1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลด 8% จากไตรมาสก่อน หลักๆ มาจากยอดขายประกันลดลงช่วงล็อกดาวน์
โดยข้อดี คือ NPL ลดลง 6.2% จากไตรมาสก่อน ทำให้ NPL ratio ลดเป็น 1.40% สิ้นไตรมาส 3/2564 จาก 1.60% ในสิ้นไตรมาส 2/2564 ส่วน Coverage ratio เพิ่มเป็น 326% อย่างไรก็ดีแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 56 บาท