น้ำมันดิบปิดลบหลังสต็อกสหรัฐฯพุ่ง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 26 เซนต์ หรือ 0.6% ปิด (16 ต.ค.) ที่ 46.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 44 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 48.71 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงหลังจาก EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 ต.ค. เพิ่มขึ้น 7.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 468.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน และเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับขึ้นเพียง 2.6 ล้านบาร์เรล สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 54.2 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 221.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 400,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 147.6 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 600,000 บาร์เรล ด้านอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 1.5% สู่ระดับ 86.0% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.6%

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงในกรอบจำกัด เนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากข้อมูลของ EIA ที่ระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 ต.ค. ลดลง 76,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.096 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด

Back to top button