“หน่ำเซียน” จับมือ เอสเอพี ปฏิวัติอุตฯเคมี นำเทคโนโลยีเพิ่มมูลค่าธุรกิจ
“หน่ำเซียน” จับมือ เอสเอพี ปฏิวัติอุตฯเคมี นำเทคโนโลยีเพิ่มมูลค่าธุรกิจ ตลอดจนเสริมศักยภาพบริษัทด้านความยั่งยืน-ปลอดภัย
นายรวิพล กฤษฎาพงษ์ ประธานคณะกรรมการ ผู้บริหาร กลุ่มบริษัทหน่ำเซียน (NSG) ได้ประกาศความสำเร็จในการพลิกโฉมระบบไอทีเดิม ยกเครื่องติดตั้ง SAP S/4HANA ในเวอร์ชัน Netizen Peony ชุดซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจ และ SAP Intelligent Robotic Process Automation (iRPA) ผ่านการร่วมมือกับบริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ เอสเอพี (SAP) และพันธมิตรติดตั้งระบบ เนทติเซนท์ (Netizen)
โดยระบบ ERP ใหม่ที่ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัวนี้ จะช่วยให้ NSG เป็นองค์กรที่มีความคล่องตัวมากขึ้นขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัล พร้อมปลดล็อกศักยภาพด้านนวัตกรรมขององค์กรในอุตสาหกรรมเคมีและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจได้อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มรายได้ สัดส่วนกำไรจากการดำเนินงาน ประสิทธิภาพของสินทรัพย์ ตลอดจนเสริมศักยภาพของบริษัทด้านความยั่งยืนและความปลอดภัย
ทั้งนี้กลุ่มบริษัทหน่ำเซียน (NSG) ผู้จัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ระดับภูมิภาคอาเซียน ที่คัดสรรเฉพาะสินค้าคุณภาพจากผู้ผลิตชั้นนำทั่วโลก สำหรับอุตสาหกรรมในแขนงต่างๆ เช่น เครื่องสำอาง, อาหารเสริม, น้ำหอม, สารแต่งกลิ่นและรส, สารเติมแต่งในอาหาร, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด, และเครื่องมือต่างๆ รวมทั้งบริการที่หลากหลายได้มาตรฐาน เพื่อตอบสนองความต้องของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์ ครบถ้วน และทันท่วงที
โดย NSG ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2470 และดำเนินธุรกิจมาแล้วกว่า 95 ปี ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและร่วมสรรสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ควบคู่ไปกับลูกค้าและบริษัทคู่ค้าทุกราย ภายใต้แนวคิด “Beyond Collaboration” และด้วยสถานการณ์การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น ความไม่แน่นอนของต้นทุน และความต้องการที่จะตอบสนองลูกค้าอย่างรวดเร็ว NSG จึงเดินหน้าพัฒนาการปรับโมเดลธุรกิจและการดำเนินงานใหม่ ผ่านการขับเคลื่อน Digital Transformation เพื่อรองรับการเติบโตและเตรียมความพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการที่ดีที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
“ในฐานะที่กลุ่มบริษัทหน่ำเซียน (NSG) เป็นผู้จัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ชั้นนำในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศ ทำให้เราอยากเฟ้นหาแนวทางใหม่ที่จะช่วยปรับรูปแบบในการดำเนินงานทางธุรกิจของเราให้ทำงานอยู่บนแพลตฟอร์มเดียว ที่สำคัญ เราต้องการพัฒนาประสิทธิภาพของระบบซัพพลายเชน โดยยึดเรื่องการสร้างความยั่งยืนเป็นแนวทางปฏิบัติของธุรกิจอีกด้วย ซึ่งการปรับระบบไอทีแบบองค์รวมในครั้งนี้จะช่วยให้องค์กรผสานความร่วมมือในการสร้างนวัตกรรมทางธุรกิจได้ เนื่องจากเรามีสินค้าหลากหลายประเภท ทำให้ระบบคงคลังและกระบวนการจัดจำหน่ายมีความซับซ้อนมาก
การนำโซลูชั่น SAP S/4HANA เวอร์ชัน Netizen Peony และ SAP iRPA เข้ามาใช้ในองค์กรคือหนึ่งในกลยุทธ์หลักของบริษัทที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกระบวนการการทำงานและสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม การปรับตัวทางดิจิทัลครั้งนี้ถือเป็นตัวเร่งสำคัญที่ไม่เพียงแต่จะช่วยปลดล็อกศักยภาพด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรม แต่ยังช่วยเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจของเราได้อย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย” นายรวิพล กล่าวเพิ่มเติม
ขณะนี้ NSG ได้ใช้เทคโนโลยี SAP S/4HANA เวอร์ชัน Netizen Peony ในการจัดการข้อมูลและกระบวนการทำงานสำหรับการดำเนินงานภายใต้กลุ่มบริษัทหน่ำเซียน (NSG) ทั้ง 4 แห่งในประเทศไทย และเตรียมวางแผนนำไปใช้ในสาขาต่างประเทศทั้ง เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ในอนาคต โดยมีทีมที่ปรึกษาการวางระบบซอฟต์แวร์ SAP ERP มามากกว่า 20 ปี จาก Netizen ทำหน้าที่เป็นแกนดิจิทัลหลักเพื่อช่วยให้บริษัทขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและลดความซับซ้อนของกระบวนการทางธุรกิจทั่วทั้งองค์กร พร้อมปรับปรุงการจัดการสินค้าคงคลังและการคาดการณ์ ทำให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ โซลูชั่นนี้ยังช่วยให้มองเห็นข้อมูลการขาย ไปจนถึงสต็อกสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ผ่านโทรศัพท์มือถือ ด้านโซลูชั่น SAP iRPA จะช่วยให้บริษัทสามารถสร้าง กำหนดเวลา จัดการ และตรวจสอบการทำงานด้วยบอทส์อัจฉริยะ (Intelligent bots) เพื่อทำงานแทนพนักงานได้แบบอัตโนมัติ ลดทอนรูปแบบการทำงานแบบเดิมซ้ำๆ เพื่อนำทรัพยากรขององค์กรไปโฟกัสกับงานอื่นๆ ที่มีคุณค่า
ด้านนายเอทูล ทูลิ กรรมการผู้จัดการ เอสเอพี อินโดไชน่า กล่าวว่า “ระบบ ERP ที่ทรงประสิทธิภาพมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความต่อเนื่องและการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบัน ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ล่าสุดกับกลุ่มบริษัทหน่ำเซียน จะช่วยยกระดับการทำ Digital Transformation ไปอีกขั้น มุ่งสร้างนวัตกรรมผ่านกระบวนการทางธุรกิจที่ทำงานอย่างสอดประสานโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอัจฉริยะของเอสเอพี เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะเสริมแกร่งตำแหน่งทางการตลาดให้กลุ่มบริษัทหน่ำเซียน ตอกย้ำความเป็นผู้นำทางธุรกิจต่อไป”
ขณะที่นายเสรี สาธุกิจชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เนทติเซนท์ จำกัด กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่บริษัทของเราได้รับการไว้วางใจจากลูกค้าให้เป็นผู้ติดตั้งโซลูชั่นของเอสเอพี และพัฒนา Thai localization ด้วยเวอร์ชัน Netizen Peony มาเพื่อช่วยพลิกโฉมธุรกิจและกระบวนการทำงานให้มีความเป็นดิจิทัลและทรานส์ฟอร์มระบบให้ทันสมัย รองรับการบริหารจัดการด้านการกำกับดูแล ความเสี่ยง และการปฏิบัติตามข้อกำหนด (GRC) เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินการบนระบบที่เชื่อถือได้และมีความโปร่งใส เราขอขอบคุณ NSG ที่ไว้วางใจและเลือกบริษัทของเราในการทำ Digital Transformation ครั้งสำคัญ”
“NSG ตั้งเป้าที่จะขยายการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลไปสู่ระดับภูมิภาคในทุกๆ ประเทศที่ดำเนินการ เบื้องต้นเราได้เริ่มนำร่องใช้งานโซลูชั่นของเอสเอพี ในเวอร์ชัน Netizen Peony กับกลุ่มบริษัท 4 แห่งในประเทศไทย และเตรียมขยายออกไปอีก 4 ประเทศในอนาคต โดยเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นับเป็นการเริ่มเส้นทางนวัตกรรมดิจิทัลร่วมกับเอสเอพี และเนทติเซนท์ อย่างเป็นทางการ ระบบ ERP ใหม่ได้วางรากฐานและเปลี่ยนองค์กรของเราไปสู่วิธีการทำงานใหม่ ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยผลักดันการเติบโตในอนาคต” นายรวิพล กฤษฎาพงษ์ ประธานคณะกรรมการ ผู้บริหาร NSG กล่าวปิดท้าย