JWD บวกแรง 5% โบรกฯเชียร์ซื้อเป้า 23 บาท จับตาปีนี้รายได้-กำไรนิวไฮ
JWD บวกแรง 5% โบรกฯเชียร์ซื้อเป้า 23 บาท จับตาปีนี้รายได้-กำไรนิวไฮ! ธุรกิจโลจิสติกส์หนุนเด่น ปี 65 โตต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(7 ธ.ค.64) ราคาหุ้นบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ณ เวลา 11.01 น อยู่ที่ระดับ 16.20 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือเพิ่มขึ้น 5.19% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 129.74 ล้านบาท
โดยก่อนหน้า(18พ.ย.64)นายเอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน JWD เปิดเผยว่า มั่นใจผลประกอบการปี 2564 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ทั้งรายได้และกำไรสุทธิ หลังจากที่รายได้ของบริษัทเติบโตต่อเนื่องทุกไตรมาส เพราะได้รับผลกระทบเชิงบวกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ธุรกิจด้านการขนส่ง (โลจิสติกส์) เติบโตอย่างมาก โดยงวด 9 เดือนปี 2564 บริษัทมีรายได้ 3,817.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 395.4 ล้านบาท ขณะที่รายได้ทั้งปี 2563 อยู่ที่ 3,922.4 ล้านบาท กำไรสุทธิ 290 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานปี 2565 นั้น เชื่อว่าผลประกอบการยังเติบโตต่อเนื่องแม้การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง เพราะประชาชนยังใช้ชีวิตแบบ New normal ต่อไป ทำให้การซื้อสินค้าผ่านออนไลน์และแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซต่าง ๆ ยังได้รับความนิยม และส่งผลดีต่อธุรกิจโลจิสติกส์ ซึ่งในปี 2565 บริษัทจะมีพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มเติม 3 แห่ง คือ คลังสินค้าห้องเย็นที่ ต.มหาชัย จ.สมุทรสาคร ขนาด 10,800 ตารางเมตร (ตร.ม.) งบลงทุน 500 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดบริการได้ไตรมาส 1/2565 คลังสินค้าที่ลาดพร้าวขนาด 3,500 ตร.ม. งบลงทุน 80 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดบริการเดือนมีนาคม 2565 และคลังสินค้าห้องเย็นที่ จ.สระบุรี พื้นที่ 8,000 ตร.ม. งบลงทุน 380 ล้านบาท ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2565
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ร่วมกับพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจ ที่ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของบริษัท ในการใช้จุดแข็งของพันธมิตรและบริษัทพัฒนาธุรกิจร่วมกัน ซึ่งจะได้กำไรเร็วกว่าการลงทุนเองทั้งหมด เช่น การร่วมทุน (JV) กับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จํากัด และบริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด รุกตลาดการขนส่งพัสดุที่คาดว่าการจัดตั้ง JV จะแล้วเสร็จในปี 2565 พร้อมให้บริการได้
ขณะที่ การเข้าซื้อหุ้นบริษัท อีสเทิร์นซี แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด (ESCO) ประมาณ 20% ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินกระบวนการซื้อหุ้นเสร็จสิ้นแล้ว และจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก ESCO ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป โดย ESCO เป็นผู้ดำเนินธุรกิจท่าเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศรายใหญ่ในท่าเรือแหลมฉบังรวมประมาณ 3 ล้านตู้ต่อปี รวมทั้งการเจาะตลาดขายสินค้าหรือบริการกับลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคทั่วไปโดยตรง (B2C) ร่วมกับ MyCloudFulfillment ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์ โดย JWD ได้เข้าถือหุ้นใน MyCloud 19.75% ก็จะเป็นการรองรับการเติบโตของตลาดอี-คอมเมิร์ซในอนาคตด้วย โดย JWD ตั้งเป้า 5 ปีจากนี้ จะมีรายได้ที่ 10,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิเติบโต 15%
ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (19 พ.ย.64) ว่า บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 23 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/2564 ยังอยู่ในระดับสูงแข็งแกร่งต่อเนื่อง หนุนกำไรปกติทั้งปี 2564 โต 25% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งที่มี Lockdown (กำไรสุทธิโต 80% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน)
กำไรปี 2565 ที่คาดโต 29% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน อาจมี upside จาก Synergy เต็มปีที่ได้จากการลงทุน 6 ดีลในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น ESCO, Fuze Post (รุก Cold chainexpress), MyCloudFulfillment (รุก B2C), Alpha (จับมือกับ ORI)และมีแผนสร้างห้องเย็นเพิ่ม ขยายบริการสู่ธุรกิจ Health connect (Health careLogistic solution) รวมถึงธุรกิจในต่างประเทศโดยเฉพาะเวียดนามและกัมพูชาที่จะฟื้นเร็วหลังโควิดและมีแผน IPO บ.ย่อย (JWD Transport) ราวไตรมาส 4/2565