SONIC วิ่ง 3% โบรกฯอัพกำไรปี 64 โต 46% ชี้ดีมานด์แกร่ง เคาะเป้า 6.40 บ.
SONIC บวก 3% โบรกฯอัพกำไรปี 64 โต 46% มองมานด์แกร่ง-ค่าระวางเรือตู้ที่ยืนสูงตามภาวะอุตสาหกรรมหนุน แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.40 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (17 ธ.ค. 2564) ราคาหุ้นบริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC ณ เวลา 10:36 น. อยู่ที่ระดับ 4.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท หรือ 2.93% โดยทำจุดสูงสุดที่ 4.26 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 4.18 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 110.99 ล้านบาท
บริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ธ.ค. 2564) ว่า หลังจาก BDI index ปรับตัวลง 16.90% ใน 2 วัน จากอุปสงค์ความต้องการใช้เรือสินค้าแห้งเทกอง (Dry bulk) อ่อนแอลงหลังอุตสาหกรรมอสังหาฯ จีนเริ่มได้รับผลกระทบจากวิกฤติหนี้ China Envergrande จนทำให้การผลิตวัสดุก่อสร้างอย่าง Steel จีนลดลงถึง 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ใน เดือน พ.ย. ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยได้ตรวจสอบไปยังผู้บริหารซึ่งได้ข้อมูลว่า กิจกรรมขนส่งทางเรือของ SONIC ทั้งหมด ไม่ได้ใช้เรือชนิด Dry bulk เพราะลักษณะสินค้าโภคภัณฑ์ที่บรรทุกโดยเรือ Dry bulk นั้น ผู้ว่าจ้างจะติดต่อเช่าเหมาลำเรือ Dry bulk โดยตรง ไม่มีการแชร์พื้นที่กัน จึงไม่จำเป็นต้องใช้ ตัวกลาง Freight Forwarder อย่าง SONIC
ขณะที่กิจกรรมของ SONIC ส่วนใหญ่จะอยู่บนเรือตู้สินค้า (Container) ซึ่งสถานการณ์ของสินค้าสำเร็จรูป (Finished goods) ยังคงแข็งแกร่ง อุปสงค์ในระวางเรือยังคงมากกว่าอุปทานที่มีสะท้อนจากดัชนี Shanghai Container Freight Index ที่ยังยืนในระดับสูงมาก
อย่างไรก็ดีหลังจากรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2564 เป็นสถิติใหม่ และสูงกว่าคาดถึง 78% จนกำไร ชงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 สูงกว่าประมาณการปี 2564 ของทางฝ่ายวิจัย 2% นอกจากนี้ SONIC ยังได้ประโยชน์เต็มๆจากค่าระวางเรือตู้ที่ยืนสูงตามภาวะอุตสาหกรรม ขณะที่การใช้กลยุทธ์ให้ส่วนลดช่วยเหลือลูกค้าทำให้ SONIC สามารถรักษาปริมาณขนส่งที่ดีต่อเนื่องได้ซึ่งแม้อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง 140bps แต่จะเห็นได้ว่า EBIT margin ขยายตัวจาก 8.90% ในไตรมาส 2/2564 เป็น 9.10% สะท้อนถึงการได้ประโยชน์จากขนาดอยู่ดี (Economies of scale) ซึ่งด้วยสถานการณ์ที่เป็นคุณกับบริษัทยาวต่อเนื่องในปีหน้า ทางฝ่ายวิจัยจึงปรับประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้น 45.80% และปี 2565 ขึ้น 8.00%
ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเหมาะสม Rll-Over ไปปีหน้าเป็น 6.40 บาทต่อหุ้น (Fully diluted จาก SONIC-W1 ที่เหลือทั้งหมด 114.9 ล้านหน่วย) เพิ่มขึ้น 37% ด้วยการอิงค่า P/E เป้าหมาย 19.10 เท่าตามเดิมที่มีส่วนลดจากกลุ่ม 20% โดย SONIC เป็นหุ้น Growth stock ขนาดเล็กที่คาดจะแสดงการเติบโตของกำไรปี 2566 ได้น่าพอใจ 27.50% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เกาะไปกับกลุ่มได้อย่างเหนียวแน่น พร้อมกับการมีความเสี่ยงทางการเงินที่ต่ำ อีกทั้งมี Net D/E เป็นบวกอีกด้วย