LEO วิ่ง 4% ลุ้นกำไรปีนี้โต 2 เท่าตัว! อานิสงส์ค่าระวางเรือ-China post หนุน เป้า 17 บ.
LEO วิ่ง 4% โบรกฯชี้กำไรปีนี้ โต 2 เท่าตัว! รับอานิสงส์ค่าระวางเรือสูงและการจับมือกับ China post ดันยอดการขนส่งทางอากาศและทางราง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 17 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (22 ธ.ค.2564) ราคาหุ้น บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO ณ เวลา 11:34 น. อยู่ที่ระดับ 13.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 3.82% โดยทำจุดสูงสุดที่ 13.60 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 13.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 109.78 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ วันนี้ (22 ธ.ค.2564) ว่า ทางฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อ Outlook ของบริษัทฯ ทั้งระยะสั้นและยาว จากในส่วนของค่าระวาง (Shanghai containerized freight index) ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยล่าสุดปิดที่ 4,894 จุด ส่งผลให้ค่าระวางไตรมาส 4/2564 เฉลี่ยจากต้นไตรมาสจนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 4,640 จุด เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาส 3/2564 โดยปริมาณการขนส่งยังเติบโตได้ดีตามการฟื้นตัวของ Global demand
อีกทั้งคาดกำไรไตรมาส 4/2564 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ จากค่าระวางที่สูงขึ้น และสามารถชดเชยรายได้ที่ลดลงจาก ธุรกิจ Self-storage และ Container depo ถูกเลื่อนการเปิดออกไปเป็นเดือน ม.ค. และเดือน มี.ค. ตามลำดับ และดีล M&A จะเซ็นสัญญาภายใน ธ.ค. 2564 นี้ แต่คาดว่าจะประกาศได้ในช่วงกลางเดือน ม.ค.
ดังนั้นทางฝ่ายวิจัยคงกำไรปี 2564 ที่ 170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 199% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และคงกำไรปี 2565 ที่ 185 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับกำไรปี 2564-2565 มี Upside จาก (1) ค่าระวางที่สูงกว่าคาด โดยทางฝ่ายวิจัยมองว่าค่าระวางมีโอกาสที่จะอยู่ในระดับสูงไปจนถึงไตรมาส 3-4/2565 จาก Port congestion ที่ท่าเรือใน Los Angeles และ Long Beach และค่าระวางเรือ จาก Asia ไปประเทศอินเดียปรับขึ้นมาก ปัจจุบันอยู่ที่ 8,000-9,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ตู้ size 40 นิ้ว (จาก 4,500-5,500 ดอลลาร์สหรัฐ/ตู้ size 40 นิ้ว ในช่วงครึ่งปีแรก 2564)
นอกจากนี้ (2) การจับมือกับ China post ดันยอดการขนส่งทางอากาศและทางรางที่ยังไม่ได้รวมเข้ามาในประมาณการ ซึ่งราคาหุ้น Outperform เพิ่มขึ้น 17%/ เพิ่มขึ้น 31% ใน 1 และ 6 เดือนที่ผ่านมา จากกำไรที่เติบโตดีตั้งแต่ไตรมาส 2/2564 อย่างไรก็ตาม
ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 17 บาท โดยมี Key catalysts คือกำไรไตรมาส 4/2564 ที่จะทำ New high ต่อเนื่องไปยังปี 2565 ที่ยังมีแนวโน้มสดใส และการประกาศดีลใหม่ต้นเดือนม.ค. 2565