PAE มั่นใจผู้ถือหุ้นผ่านแผนเพิ่มทุนขาย RO หากเหลืออาจขาย PP
PAE มั่นใจผู้ถือหุ้นผ่านแผนเพิ่มทุนขาย RO หากเหลืออาจขาย PP
นายรัฐชัย ภิชยภูมิ กรรมการบริหาร บริษัท พีเออี(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PAE เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจแผนเพิ่มทุนของบริษัทจะได้รับการตอบรับที่ดีจากการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 30 ต.ค.นี้ เพื่อระดมทุนราว 1,039 ล้านบาทมาใช้แก้ปัญหาทางธุรกิจ ชำระหนี้ และขยายธุรกิจ แต่หากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อผู้ถือหุ้นเดิม(RO)มีผู้ใช้สิทธิไม่ครบจำนวน ก็อาจจะพิจารณาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนที่เหลือให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP) แต่ยืนยันว่าจะเสนอขายในราคาที่ไม่ต่ำกว่า 90% ของราคาตลาด ไม่ใช่การเสนอขายในราคาต่ำที่เคยทำให้แผนเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งก่อนต้องล้มเลิกไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการ PAE อนุมัติให้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้ RO จำนวน 6,926 ล้านหุ้น ในสัดส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 2.5 หุ้นใหม่ ที่ราคาเสนอขาย 0.15 บาท/หุ้น วัตถุประสงค์การระดมทุนเพื่อเพิ่มส่วนผู้ถือหุ้นให้มีความแข็งแกร่งแก้ปัญหาส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ นำไปชำระเงินกู้สถาบันการเงินเจ้าหนี้การค้าเพื่อลดต้นทุนทางการเงิน สร้างความน่าเชื่อถือในการดำเนินกิจการ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ขยายธุรกิจเดิมด้าน Oil & Gas ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจะนำไปลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัทในอนาคต
นายรัฐชัย กล่าวว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานปี 59 จะพลิกกลับมามีกำไร จากปีนี้ที่น่าจะยังมีผลขาดทุน หลังจากช่วง 6 เดือนแรกขาดทุนแล้ว 56.96 ล้านบาท ต่อเนื่องจากปี 57 ที่ขาดทุน 635.49 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทรับรู้ค่าใช้จ่ายในงานที่มีอัตรากำไรต่ำ แม้ว่าจะรับรู้รายได้ไปแล้วทั้งหมดแต่ยังต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเข้ามาในปีนี้บางส่วน ขณะที่ในปีหน้าบริษัทจะไม่ต้องรับรู้ค่าใช่จ่ายส่วนนี้แล้ว
ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ราว 800-1,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าในมือ(backlog)ราว 1,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีอีก 500-700 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
นายรัฐชัย กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณงานที่เพิ่มมากขึ้น การบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น และคาดว่าในอนาคตธุรกิจ Oil & Gas จะขยายตัวได้ดีอย่างมากทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากพลังงานน้ำมัน ก๊าซ ปิโตรเคมี ยังคงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อภาคการผลิตต่างๆ และในปัจจุบันมีลูกค้าหลายกลุ่มที่ต้องการให้บริษัทเพิ่มงานบริการ
แต่เนื่องด้วยบริษัทมีข้อจำกัดในด้านการลงทุน จึงมีความจำเป็นต้องระดมทุนเพิ่ม เพื่อนำไปปรับปรุงโรงประกอบ และเพิ่มอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องจักร ในการให้บริการ อีกทั้งจะขยายบริการสู่กลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ที่มีความจำเป็นต้องซ่อมบำรุงระบบเชื้อเพลิงในโรงงาน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพของบุคลากร และปัจจุบันบริษัทได้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายการบริการไปยังประเทศต่างๆในภูมิภาคอาเซียน
ขณะที่ บมจ. พีเออี เทคนิคอล เซอร์วิส ให้บริการด้านตรวจสอบแบบไม่ทำลายและการออกใบรับรองคุณภาพงาน ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ PAE ที่มีศักยภาพในการเติบโต มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยเฉพาะด้านการตรวจสอบ ถือเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและสนับสนุนการเติบโตให้กับบริษัทแม่อย่าง PAE ได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งบริษัทมีแผนนำบริษัทดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai)เพื่อระดมทุนในช่วงต้นปี 59 โดยมี บล.เคที ซีมิโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นอกจากนั้น บริษัทยังเตรียมลงทุนในธุรกิจจำหน่ายน้ำดิบและน้ำประปาให้กับโรงงานในนิคมอุตสหกรรมผ่านบริษัทย่อย ซึ่งวางงบลงทุนไว้ที่ 300-400 ล้านบาท เพื่อวางท่อน้ำความยาว 60 กิโลเมตรเข้าไปยังนิคมอุตสาหกรรม และเตรียมงบลงทุนไว้ราว 100 ล้านบาทเพื่อลงทุนตั้งโรงแยกก๊าซแหล่งปิโตรเลียมบนบก คาดหวังอัตราผลตอบแทน จากการลงทุนในโรงแยกก๊าซไม่ต่ำกว่า 20%
นายรัฐชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มบุคคลโจมตีบริษัทผ่านสื่อโซเชียลว่า บริษัทได้มีการแจ้งความไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการดำเนินการสืบสวนสอบสวนและมีความคืบหน้ามากแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้