ABM บวกแรง 8% “ออลไทม์ไฮ” วางเป้ายอดขายปีนี้ 2.5 พันลบ. พร้อมกางแผน 5 ปี แตะ 5 พันลบ.

ABM บวกแรง 8% “ออลไทม์ไฮ” วางเป้ายอดขายปีนี้ 2.5 พันลบ. พร้อมกางแผน 5 ปี (ปี 65-69) แตะ 5 พันลบ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (7 ม.ค.65) ราคาหุ้นบริษัท เอเชีย ไบโอแมส จำกัด (มหาชน) หรือ ABM ณ เวลา 11:03 น. อยู่ที่ระดับ 3.40 บาท บวก 0.26 บาท หรือ 8.28% ราคาสูงสุด 3.46 บาท ราคาต่ำสุด 3.18 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 278.66 ล้านบาท โดยราคาหุ้นสุงสุดตั้งแต่เข้าตลาดเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2561

โดยก่อนหน้า(11พ.ย.64)นางสาวธิญาดา เมฆพงษ์สาทร กรรมการผู้จัดการ ABM เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจจะสามารถทำยอดขายปี 2565 ตามเป้าที่ 2.5 พันล้านบาท จากปี 2564 คาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ระดับ 1.8 พันล้านบาท โดยมาจากการเติบโตของธุรกิจเดิมและการขยายธุรกิจใหม่ ขณะที่แผนลงทุน 5 ปี (ปี 2565-2569) ตั้งเป้ายอดขายจะขึ้นไปแตะระดับ 5 พันล้านบาทภายในปี 2569

ขณะที่บริษัทมียอดขายในช่วง 9 เดือนแรก 2564 แล้วกว่า 1.4 พันล้านบาท ดังนั้นมั่นใจว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะปริมาณการขายเชื้อเพลิงชีวมวลที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้บริษัทยังดำเนินธุรกิจใหม่ อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับมันสำปะหลัง การค้ามันเส้น ซึ่งมีมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น รวมถึงการศึกษาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับปาล์ม ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษาเพื่อขยายไปยังธุรกิจดังกล่าว คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้เชื่อว่ากลุ่มธุรกิจดังกล่าว จะทำให้บริษัทมีมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น

“ในปีนี้ บริษัทยังมั่นใจว่ายอดขายจะเป็นไปตามเป้า และเติบโตขึ้นในปี 2565 โดยมาจากทั้งธุรกิจเดิม ที่ได้อานิสงส์จากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูง ทำให้กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมหันมาใช้เชื้อเพลิงชีวมวลเพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทก็มีการศึกษาธุรกิจใหม่ ที่มีมาร์จิ้นสูงขึ้นด้วย โดยตั้งเป้ายอดขาย 5 ปียังเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน”

สำหรับแผนงานในอนาคต บริษัทมีแผนการลงทุนในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐานตามหลักสากล โดยบริษัทมีแผนลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในระบบขนส่งสินค้าของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการลงทุนนี้รวมถึง การเพิ่มจำนวนรถขนส่ง และการเพิ่มคลังสินค้า ซึ่งในปีนี้ได้เริ่มแผนปรับปรุงพื้นที่ และเริ่มดำเนินงานคลังสินค้า ที่ ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อเป็นคลังสินค้ากะลาปาล์ม และรองรับแผนการลงทุนในอนาคต นอกจากนี้บริษัทแผนปรับปรุงประสิทธิภาพรถขนส่ง และลดต้นทุนเพื่อให้แข่งขันในตลาดได้

นอกจากนี้ บริษัทได้ทำสัญญาซื้อไม้โตเร็ว (Acacia species) เพื่อเป็นแหล่งวัตถุดิบในการผลิตสินค้า และรองรับความต่อเนื่องของห่วงโซ่ อุปทานของบริษัท รวมถึงเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากการขาดแคลนสินค้าในอนาคต โดยบริษัทได้ทำสัญญาซื้อไม้โตเร็ว จากสวนป่าในสังกัดองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคใต้ โดยมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 3,000 ไร่ คาดได้ไม้ทั้งหมด 30,000 ตัน และคาดว่าจะได้รับผลผลิตจากสัญญาดังกล่าวในปี 2565

Back to top button