BCP วิ่ง 4% โบรกฯเคาะเป้า 31.50 บ. เล็งผลงานปี 65 แกร่ง รับค่าการกลั่น-รายได้ OKEA หนุน
BCP วิ่ง 4% โบรกฯเคาะเป้า 31.50 บ. มองผลงานปี 65 เด่น รับค่าการกลั่นหลังอุปสงค์การใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น-รับรู้การดำเนินงานของ OKEA เข้ามาเต็มปีภายใต้ปริมาณขายเพิ่มขึ้นหนุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (7 ม.ค.2565) ราคาหุ้นบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ณ เวลา 12:10 น. อยู่ที่ระดับ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 3.92% โดยทำจุดสูงสุดที่ 27.00 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 26.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 207.51 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (6 ม.ค.2565) โดยคาดแนวโน้มการดำเนินงานไตรมาส 4/2564 ยังดีจากไตรมาสก่อน โดยเฉพาะจากการดำเนินงานในกลุ่มโรงกลั่น จากการใช้กำลังการกลั่นที่ใกล้เคียงจากไตรมาสก่อนที่ 1.10 แสนบาร์เรลต่อวัน ขณะที่อุปสงค์การใช้น้ำมันในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นทำให้ GRM ในกลุ่มโรงกลั่นดีขึ้น
ส่วนกลุ่มการตลาดคาดปริมาณขายน้ำมันจะกลับมาเพิ่มขึ้นหลังการคลายล็อกดาวน์และเข้าสู่เทศกาลท่องเที่ยว แต่คาดจะได้รับผลลบจากมาตรการรัฐที่ให้คงราคาขายน้ำมันมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันค่าการตลาดให้ลดลงและทำให้การดำเนินงานอาจไม่ดีนัก ส่วนธุรกิจพลังงานไฟฟ้าคาดได้ผลบวกจากการเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงปลายปี ส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพทั้งในส่วนไบโอดีเซลและเอทานอลคาดปริมาณขายเพิ่มขึ้นจากการคลายล็อกดาวน์เช่นกัน ส่วนกลุ่ม E&P คาดอ่อนลงตามราคาน้ำมันที่ลดลง
อย่างไรก็ดีหลังการเปลี่ยนแปลงการบันทึกเงินลงทุนใน OKEA จากบ.ร่วมเป็นบ. ย่อยทำให้มีการเปลี่ยนการบันทึกบัญชีเป็นงบการเงินรวมแทนตั้งแต่ไตรมาส 3/2564 ทำให้การดำเนินงานกลุ่มทรัพยากรธรรมชาติ (E&P) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยตามราคาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่ปรับขึ้น สำหรับปี 2564 คาดปริมาณการผลิตอยู่ที่ 15.50 – 16.50 KBOED ขณะที่ปี 2565 คาดเพิ่มเป็น 18-19 KBOED เพิ่มขึ้นราว 9-15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดย OKEA นั้นมีการผลิตทั้งแก๊สและน้ำมัน โดยในส่วนแก๊สจะขายเข้าในอังกฤษทำให้ได้ผลบวกตามราคาแก๊สที่เพิ่มขึ้นในประเทศดังกล่าว และคาดแนวโน้มราคาน้ำมันในปี 2565 จะอยู่ที่ราว 70-75 เหรียญต่อบาร์เรล
นอกจากนี้ทางฝ่ายวิจัยคาดปี 2565 ยังมีปัจจัยหนุนต่อการดำเนินงาน โดยเฉพาะในส่วนกลุ่มโรงกลั่นที่ยังได้ผลบวก จาก GRM ที่ดีต่อหลังอุปสงค์การใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นจาก COVID-19 คลี่คลายและคาดการใช้กำลังการกลั่นเพิ่มเป็น 1.20 แสนบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ในส่วนของ E&P จะรับรู้การดำเนินงานของ OKEA เข้ามาเต็มปีภายใต้ปริมาณขายเพิ่มขึ้น ส่วนธุรกิจพลังงานไฟฟ้าคาดจะดีขึ้นจากการ COD ทั้งในไทยและญี่ปุ่น
อีกทั้งทางฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองบวกต่อการดำเนินงานโดยเฉพาะในส่วนธุรกิจหลักที่กลับมาฟื้นตัว ขณะที่บ.ย่อย อย่างโรงไฟฟ้า ที่จะเริ่มดำเนินการผลิตทั้งในไทยและต่างประเทศ ส่วน OKEA จะรับรู้การดำเนินงานเต็มปี ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการดำเนินงานให้ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลดีสุดในกลุ่ม ณ ราคาปัจจุบันทางฝ่ายปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ประเมินราคาพื้นฐานปี 2565 ที่ 31.50 บาท