นักลงทุนแห่ขายทำกำไร TIPH ฉุดหุ้นร่วง 22% หลังวิ่งเกินเป้า 83.50 บ.
นักลงทุนแห่ขายทำกำไร TIPH ฉุดหุ้นร่วง 22% หลังวิ่งเกินเป้า 83.50 บ. โดย ณ เวลา 16.23 น. อยู่ที่ระดับ 68.50 บาท ลบ 19.00 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(10 ม.ค.65) ราคาหุ้นบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH ณ เวลา 16.23 น. อยู่ที่ระดับ 68.50 บาท ลบ 19.00 บาท หรือ 21.71% สูงสุดที่ระดับ 87.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 67.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.35 พันล้านบาท โดยช่วงที่ผ่านมานักลงทุนเข้าเก็งกำไรหุ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ราคาทะลุเป้าที่ระดับ 83.50 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ธ.ค.64) ว่า TIPH สำหรับระยะสั้นมองว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวได้ดีตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป โดยคาดว่ากำไรสุทธิ consensus ปีนี้ที่ 1,932 ล้านบาท และปี 2565 กำไรสุทธิ 2,231 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.5 % และ ปี 2566 กำไรสุทธิ 2,578 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.5% จากปีก่อน
ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ FTSE Russel ประกาศหุ้นที่ได้รับการคัดเลือกเข้าคำนวณดัชนี FTSE SET Index Series รอบใหม่เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2564ที่ผ่านมาหุ้น TIPH เป็นตัวหนึ่งได้เข้า FTSE Mid Cap Index พร้อมแนะนำ “เก็งกำไร”
โดยกรอบเก็งกำไรเบื้องต้นมองราว 83.5 บาท จาก P/BV 5.5 เท่าอิง GGM เชิงกลยุทธ์ แนะนำเก็งกำไรลักษณะรอย่อ “ซื้อ” สถานการณ์ตัวเลขผู้ป่วยโควิดในยุโรปที่เริ่มกลับสูงขึ้นอย่างมีนัยฯ ตั้งแต่ปลายพ. ย.64 ที่ผ่านมา
โดยปัจจุบัน TIPH ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ในส่วนของประกันอุบัติเหตุ อัคคีภัย วินาศภัยอื่น ๆ หรือ Non-Motor Insurance ที่ 17% และอันดับ 2 ในกลุ่มอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยที่ 10% โดยเรามองว่าอุตสาหกรรมประกันภัยมีความน่าสนใจในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งทำให้กลุ่ม Outperform SET ในช่วงที่ผ่านมา (เพิ่มขึ้น 21% เทียบกับ SET ที่เพิ่มขึ้น 13%)
นอกจากนี้ในระยะกลางยาว ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากจากอัตราเบี้ยประกัน หรือ Penetration Rate ของประกันภัยไทยที่ต่ำกว่าต่างประเทศ ทั้งจากกระแสสุขภาพ, สังคมผู้สูงอายุ และจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งภาครัฐเป็นลูกค้าของ TIP จึงมีความมั่นคงสูง ขณะที่บริษัทปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นการลงทุน และสร้างมูลค่าเพิ่มจากแผนงานช่วงถัดไป (แตกไลน์ธุรกิจ ร่วมทุน และ ควบรวมกิจการ เป็นต้น)
ด้านนายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH เปิดเผยว่าในปี 2565 บริษัท ฯ ยังใช้เงินลงทุนในสัดส่วน 75% ไปในกลุ่มธุรกิจประกัน (Insurance) และกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการประกัน เป็นหลัก 70%
ทั้งนี้แนวทางการลงทุนแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่1. กลุ่มธุรกิจประกันภัย ได้แก่ ธุรกิจวินาศภัย (Non-Life Insurance) ภายใต้กลุ่ม TIP, ประกันชีวิต (Life Assurance) ภายใต้กลุ่ม TIP Life และประกันภัยในต่างประเทศ (International Insurance) ภายใต้กลุ่ม TIP Lao ,2. กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการประกัน และ3. กลุ่มธุรกิจใหม่อื่น ๆ ซึ่งมีโอกาสเติบโต หรืออาจเป็นเรือธงในเทรนด์อนาคตสัดส่วนอีกประมาณ 25%
โดยการทำธุรกิจในปัจจุบันต้องมีการร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตร เพื่อเสริมสร้างจุดแข็งให้บริษัท ฯ สร้างโอกาสทางธุรกิจเพื่อการเติบโต ซึ่งบริษัท ฯ มีทั้งกลุ่มพาร์ตเนอร์ที่ถือหุ้นโดยตรงของบริษัท อย่างกลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT, ธนาคารออมสิน, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เป็นต้น