รับเหมาวิ่งยกแผง! รับ “คมนาคม” เคาะงบปี 66 กว่า 3.2 แสนลบ. โบรกฯ ชู CK-STEC ท็อปพิคกลุ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ณ เวลา 10:59 น. ราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาและก่อสร้างปรับตัวขึ้นแรง นำโดย บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC อยู่ที่ 15 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 3.45% สูงสุดที่ 15.20 บาท ต่ำสุดที่ 14.80 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 233.75 ล้านบาท

ราคาหุ้น บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK อยู่ที่ 23.10 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 1.76% สูงสุดที่ 23.50 บาท ต่ำสุดที่ 22.80 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 233.31 ล้านบาท

ราคาหุ้น บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR อยู่ที่ 1.08 บาท บวก 0.03 บาท หรือ 2.86% สูงสุดที่ 1.09 บาท ต่ำสุดที่ 1.06 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 26.37 ล้านบาท

ราคาหุ้น บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD อยู่ที่ 2.24 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 0.90% สูงสุดที่ 2.28 บาท ต่ำสุดที่ 2.22 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 41.04 ล้านบาท

ราคาหุ้น บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ อยู่ที่ 6.35 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 1.60% สูงสุดที่ 6.45 บาท ต่ำสุดที่ 6.30 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 5.60 ล้านบาท

ทั้งนี้นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเช้านี้ปรับตัวโดดเด่นเนื่องจากมีข่าวว่ากระทรวงคมนาคมสรุปจัดทำงบประมาณปี 2566 วงเงิน 3.24 แสนล้านบาท เน้นก่อสร้างโครงการหลัก เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มรับเหมาฯ และวัสดุก่อสร้าง ซึ่งงบประมาณจะเริ่มเดือน ก.ย. 65 ทำให้มีแรงเก็งกำไรเข้ามา เพราะจะทำให้บริษัทรับเหมามีโอกาสได้งานเพิ่มขึ้น จากปีก่อนที่งานออกมาประมูลน้อย

รวมทั้งยังมีโครงการที่กำลังประมูลได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ที่คาดว่าจะรู้ผลการประมูลเร็วๆนี้ ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มคาดจะเปิดประมูลเร็วๆนี้เช่นกัน โดยมูลค่างานโยธาแต่ละโครงการมีมูลค่าถึง 8 หมื่น-1 แสนล้านบาท ทำให้บริษัทรับเหมาก็มีโอกาสได้งานเพิ่มขึ้น

พร้อมแนะนำหุ้น Top Pick ได้แก่ หุ้น CKให้ราคาเป้าหมาย 27 บาท โดยงานในมือ (Backlog)ของบริษัทยังไม่มากก็มีโอกาสรับงานเพิ่มได้อีกมาก และบริษัทลูกก็ให้กำไรดี เช่น บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และ บริษัท ซีเคพาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ที่ทยอยฟื้นตัว

รวมถึงให้ราคาเป้าหมาย STEC ที่ 18 บาท บริษัทมีงานในมือมากพอสมควร และการได้รับงานใหม่จะทำให้มาร์จิ้นดีขึ้น หลังจากงานมาร์จิ้นต่ำทยอยหมดไป