PSG แรงต่อ 5% รับบิ๊กดีล “เหมืองถ่านหิน” สปป.ลาว 8.8 พันลบ. ลุ้นปี 65 เทิร์นอะราวด์
PSG แรงต่อ 5% รับบิ๊กดีล “เหมืองถ่านหิน” สปป.ลาว 8.8 พันลบ. ประเดิมก้าวสู่ยุคใหม่ ลุ้นปี 65 เทิร์นอะราวด์เต็มตัว บริษัทยังจะเน้นโครงการที่เป็นเมกะโปรเจกต์ หรือโครงการขนาดใหญ่ จากภาคเอกชน ใน สปป.ลาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ม.ค. 2565) ราคาหุ้น บริษัท พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PSG ณ เวลา 10:22 น. อยู่ที่ระดับ 1.42 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 5.19% โดยทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1.45 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1.37 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 285.21 ล้านบาท
สำหรับราคาหุ้นบนกระดานยังคงปรับตัวต่อเนื่องสะท้อนจากปัจจัยบวกหลังจาก นายเดวิด แวน ดาว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PSG กล่าวว่า บริษัทได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประมูลงานก่อสร้างโครงการ XPPL Expansion Phase 1 ของ Xekong Power Plant Company Limited มูลค่าโครงการ 263,955,452.33 ดอลลาร์สหรัฐฯ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) หรือเทียบเท่ากับประมาณ 8,895,298,743.52 บาท (โดยอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ปัจจุบัน) เพื่อรับสิทธิในการดำเนินงานก่อสร้าง (Turnkey Construction) เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตถ่านหิน จากขนาดประมาณ 2.94 ล้านตันต่อปี เป็นขนาด 15 ล้านตันต่อปีที่จังหวัดเซกอง ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)
สำหรับโครงการดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินงานประมาณ 32 เดือน โดยบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าลงนามในสัญญาก่อสร้างที่เกี่ยวข้องภายในระยะเวลาที่เหมาะสมกับ Xekong Power Plant Company Limited
ด้านนายชวิต แสงอุดมเลิศ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร PSG เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า จากที่บริษัทชนะประมูลงานก่อสร้างโครงการ XPPL ใน สปป.ลาว มูลค่าโครงการเกือบ 9,000 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 32 เดือนดังกล่าว ถือเป็นงานที่มีมูลค่าสูงสุดตั้งแต่เปิดบริษัทมากว่า 40 ปี หลังจากที่มีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่เข้ามาเมื่อปีก่อน คาดในระยะเวลา 1-2 เดือนข้างหน้าจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามา ซึ่งก็จะเป็นการเริ่มรับรายได้ตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 1/2565 เป็นต้นไป และจะทำให้ผลการดำเนินงานมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ดังนั้น ในปี 2565 บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานจะกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้ โดยจะพลิกกลับมามีกำไร หลังจากในช่วงกว่า 4-5 ปีที่ผ่านมา มีผลขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 3/2564 บริษัทมีขาดทุนสะสมประมาณ 1,500 ล้านบาท แม้เป็นตัวเลขที่สูง แต่บริษัทก็จะพยายามล้างขาดทุนสะสม โดยมีโอกาสที่จะล้างขาดทุนสะสมได้หมดภายในปี 2566 ส่วนผลการดำเนินงานปี 2564 คาดว่าจะมีการประกาศในช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้
“ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา บริษัทติดปัญหาทางการเงิน จนไม่สามารถจะรับงานขนาดใหญ่ได้ จึงทำให้เดิมบริษัทไม่มีมูลค่างานในมือ (Backlog) เลย ซึ่งงานก่อสร้างโครงการ XPPL ใน สปป.ลาว เป็นงานที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มูลค่าเกือบ 9,000 ล้านบาท หลังจากที่มีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่เข้ามา ทำให้มีฐานทุนที่แข็งแกร่ง จนเข้าไปรับงานขนาดใหญ่ได้” นายชวิต กล่าว
ด้านแผนการดำเนินธุรกิจ บริษัทจะยังคงโฟกัสในธุรกิจก่อสร้าง ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก ที่ในอนาคตมีโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น หลังจากที่ PSG มีผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่เข้ามา จึงเปลี่ยนไปรับงานในต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะใน สปป.ลาว ที่การแข่งขันไม่รุนแรง และมีมาร์จิ้นที่ดีกว่าในประเทศไทย จากเดิมที่บริษัทจะเน้นรับงานในประเทศเป็นหลัก ซึ่งมีการแข่งขันสูง และมีมาร์จิ้นไม่ได้ดีมาก
ทั้งนี้ ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจใน สปป.ลาว มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด หรือมีการเติบโตตัวเลขสองหลักที่มากกว่า 10% ขณะที่การแข่งขันไม่ได้สูงมาก และน่าจะทำมาร์จิ้นได้ดีกว่างานในประเทศไทย ด้วยมูลค่าตลาดในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่เติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 2563 มีมูลค่าตลาดประมาณ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังจะเน้นโครงการที่เป็นเมกะโปรเจกต์ หรือโครงการขนาดใหญ่ จากภาคเอกชน ใน สปป.ลาว ด้วยสายสัมพันธ์ที่ดีใน สปป.ลาว ก็มีโอกาสที่จะทำให้ได้รับงานอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ได้งานก่อสร้างโครงการ XPPL รองรับการขยายกำลังการผลิตถ่านหิน จากขนาดประมาณ 3 ล้านตันต่อปี เป็นขนาด 15 ล้านตันต่อปี