AOT วิ่ง 2% เล็งศบค. รีเทิร์น “Test&Go” โบรกฯเคาะเป้า 68 บ.
AOT วิ่ง 2% เล็งศบค. รีเทิร์น "Test&Go" โบรกฯเคาะเป้า 68 บ. คาดปี 2566 จะกลับมามีกำไรได้ที่ 9.98 พันล้านบาท อีกทั้งคาดว่าจุดต่ำสุดคาดผ่านไปแล้วในปี 2564 และจะดีขึ้นเรื่อยๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ม.ค. 2565) ราคาหุ้น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ณ เวลา 11:05 น. อยู่ที่ระดับ 62.75 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.45% โดยทำจุดสูงสุดที่ระดับ 62.75 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 61.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.83 พันล้านบาท
สำหรับ AOT เนื่องจากเป็นสนามบินหลักของประเทศไทย มองว่า สนามบินน่าจะได้รับประโยชน์มากสุด หากศบค.ชุดใหญ่จะมีขึ้นในวันนี้ (20 ม.ค.2565) ที่ประชุมจะมีการพิจารณานำรูปแบบการเดินทางเข้าประเทศแบบ Test&Go กลับมาใช้ โดยผู้ที่ต้องการเดินทางเข้ามาในระบบจะต้องมีการคัดกรองเชื้อในวันแรก และวันที่ 6 ด้วยระบบ RT-PCR หลังจากนั้นเมื่อครบกำหนด 7 วัน หากตรวจแล้วไม่พบการติดเชื้อก็สามารถเดินทางได้ทั่วราชอาณาจักรเพราะถือว่าปลอดภัย โดยระหว่าง 7 วันแรกผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจะต้องมีการแจ้งตำแหน่งและพิกัดการเดินทางในแอปพลิเคชั่นติดตามตัว
โดยการจะเปิด Test&Go รอบใหม่ต้องดูความสมดุล และเพิ่มเติมมาตรการ เช่น การเพิ่มการตรวจหาเชื้อ การเพิ่มความครอบคลุมระบบประกันภัย ซึ่งต้องหารือกับ ศบค. และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขณะนี้ยังมีผู้ที่ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้เดินทางเข้ามาอยู่ และยังคงพบการติดเชื้อ โดยในวันนี้มี 59 ราย ส่วนการลดวันกักตัวในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เป็น 7 วัน + 3 วัน คือ กักตัวไม่เกิน 7 วัน ตรวจ ATK วันแรก และก่อนวันสุดท้าย เมื่อผลเป็นลบสามารถใช้ชีวิตเป็นปกติได้ แต่ต้องเข้มมาตรการเลี่ยงคนจำนวนมาก และตรวจอีกครั้งในวันที่ 10 ขณะนี้ได้ผ่านการเสนอในที่ประชุม ECO แล้ว อยู่ระหว่างการออกเป็นเอกสารแนวทางการปฏิบัติต่อไป
ขณะที่ทาง บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ว่า การกลับมาระบาดรอบใหม่และข้อมูลในไตรมาส 1 ปี 2565 จึงต้องปรับคาดการณ์ผู้โดยสารระหว่างประเทศ (ไปกลับ) ลงเป็น 10 ล้านคน และในประเทศเป็น 30 ล้านคน คาดการณ์รายได้ปี 2565 ที่ 17,355 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 145% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แม้ดูเหมือนเพิ่มขึ้นมากจากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่หากเทียบปี 2562 ก่อน COVID-19 รายได้ยังคิดเป็นเพียง 28% และปรับคาดการณ์ขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็น 10,137 ล้านบาท และคาดจะกลับมามีกำไรในปี 2566 ที่ 9,980 ล้านบาท บนคาดการณ์ผู้โดยสารระหว่างประเทศและในประเทศอยู่ที่ 40 ล้านคน และ 45 ล้านคน ตามลำดับ และไม่ได้ต่ออายุมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในสนามบินและสายการบิน
นอกจากนี้คาดว่าจุดต่ำสุดคาดผ่านไปแล้วในปี 2564 และจะดีขึ้นเรื่อยๆ จากผลกระทบ COVID-19 ที่น่าจะลดลงและการดำเนินธุรกิจเป็นปกติมากขึ้น ทำให้ในปี 2566 จะกลับมามีกำไรได้ จึงปรับใช้ราคา พื้นฐานไปปี 2566 ที่ 68 บาท ยังมี upside จึงยังคงคำแนะนำ “ทยอยซื้อ”