ดอลล์แข็งค่า ขณะตลาดจับตาประชุมเฟด-ธ.กลางญี่ปุ่นสัปดาห์หน้า

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงิน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) หลังธนาคารกลางจีนประกาศลดดอกเบี้ย และธนาคารกลางยุโรปส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางญี่ปุ่นในสัปดาห์หน้า


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.1006 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1337 ดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายวันก่อน ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.5323 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5389 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7211 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7212 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 121.40 เยน จากระดับ 119.95 เยน แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9795 ฟรังค์ จากระดับ 0.9737 ฟรังค์ และแข็งค่าขึ้นแตะ 1.3183 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3101 ดอลลาร์แคนาดา

ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะเวลา 1 ปี และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะเวลา 1 ปีลง 0.25% สู่ระดับ 4.35% และ 1.50% ตามลำดับ โดยมีผลบังคับใช้ในวันเสาร์ (24 ต.ค.) การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดนี้นับเป็นครั้งที่ 6 ตั้งแต่เดือนพ.ย.ที่ผ่านมา และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีนี้ ในความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทต่างๆ โดยเศรษฐกิจจีนขยายตัว 6.9% ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2552

ธนาคารกลางยังได้ปรับลดสัดส่วนการกันสำรอง (RRR) ของธนาคารพาณิชย์ลง 0.5% โดยมีผลวันนี้ รวมทั้งปรับลด RRR ของสถาบันการเงินที่สนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม รวมทั้งภาคการเกษตรลง 0.5% เช่นกัน ขณะที่ความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางจีนมีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่าจะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนมากขึ้น

นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุในการแถลงข่าวหลังการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ECB จะทำการทบทวนในเดือนธ.ค.เพื่อพิจารณาว่าจะมีการดำเนินการเพิ่มเติมหรือไม่เพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำในขณะนี้ การแถลงดังกล่าวของนายดรากีมีขึ้น หลังจากที่ ECB ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ 0.05%

นายดรากีกล่าวว่า ECB จะยังคงตรึงวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน และย้ำว่า ECB อาจตัดสินใจขยายเวลาการใช้มาตรการ QE ให้นานกว่าเดือนก.ย.2559 ที่กำหนดไว้ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของยูโรโซน และหนุนให้อัตราเงินเฟ้อเข้าใกล้ระดับ 2%

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบกับอีกหกสกุลเงินหลัก เพิ่มขึ้น 0.76% ที่ระดับ 97.114 ในช่วงท้ายของการซื้อขายในวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในสัปดาห์หน้า ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่า BOJ จะประกาศกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีก โดยเฟดมีกำหนดการประชุมในวันที่ 27-28 ตุลาคมนี้ ส่วนการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นจะมีขึ้นในวันที่ 30 ตุลาคม

ทั้งนี้ การขึ้นดอกเบี้ยในสหรัฐจะทำให้เงินฝากสกุลเงินดอลลาร์มีผลตอบแทนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นการดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อดอลลาร์มากขึ้น ขณะที่นักลงทุนมองว่า ถึงแม้ธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ แต่ธนาคารกลางอื่นๆทั่วโลกยังคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย หรือแม้แต่ขยายนโยบายเพิ่มเติม

ขณะเดียวกันวานนี้ มาร์กิต ผู้ให้บริการข้อมูลการเงิน ได้เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนต.ค.ของสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นแตะ 54 จากระดับ 53.1 ในเดือนก.ย. ตัวเลขล่าสุดดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 53 และนับว่าอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งเป็นเส้นแบ่งระหว่างการขยายตัวและหดตัวอยู่มากพอควร ทั้งยังบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐขยายตัวรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.

Back to top button