NCH บวกแรง 6% จับตางบ Q4/64 โตเด่น-ยอดขายทั้งปีทะลุเป้า 4 พันลบ. แถมหุ้นต่ำบุ๊ก
NCH บวกแรง 6% จับตางบ Q4/64 โตเด่น-ยอดขายทั้งปีทะลุเป้า 4 พันลบ. แถมหุ้นต่ำบุ๊ก โดย ณ เวลา 15:14 น. อยู่ที่ระดับ 1.97 บาท บวก 0.12 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(24 ม.ค. 2564) บริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH ณ เวลา 15:14 น.อยู่ที่ระดับ 1.97 บาท บวก 0.12 บาท หรือ 6.49% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 114.51 ล้านบาท ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ระดับ 2.26 บาท
อนึ่งก่อนหน้า(30 พ.ย.64)นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ NCH เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2564 ทั้งรายได้และยอดขาย (Presale) จะเติบโตขึ้น ทั้งจากไตรมาส 3/2564 และจะเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการทยอยส่งมอบโครงการในมือ
โดย ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2564 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือจำนวน 200 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวม 709 ล้านบาท แบ่งเป็น Backlog จากโครงการเดิมที่สามารถรับรู้รายได้ทันทีในช่วงไตรมาส 4/2564 ประมาณ 600 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกกว่า 100 ล้านบาท เป็น Backlog จากการเปิดขายโครงการใหม่ ซึ่งอาจจะรับรู้รายได้ในช่วงต้นปี 2565
ขณะเดียวกัน ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2564 บริษัทยังมีสินค้าพร้อมขาย (Inventory) ในมือจำนวน 1,022 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 2,957 ล้านบาท จาก 14 โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา (Active Projects) ที่จะช่วยหนุนการรับรู้รายได้ในช่วงปลายปี
ดังนั้น บริษัทจึงเชื่อว่ารายได้รวมในปี 2564 น่าจะมีโอกาสเติบโตทะลุเป้าหมายที่วางไว้ 2,000 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมแล้ว 1,887 ล้านบาท คิดเป็น 93% ของเป้าหมายทั้งปี ซึ่งสัดส่วนรายได้ 99% มาจากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบ
ส่วนยอดขายในปี 2564 บริษัทเชื่อว่าจะสามารถเติบโตทะลุ 4,000 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน ซึ่งจะเป็นการเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) หลังจากในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายสะสมแล้ว 3,269 ล้านบาท คิดเป็น 94% ของเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ 3,500 ล้านบาท โดยในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายกว่า 300 ล้านบาทต่อเดือน
ทั้งนี้ ในปี 2564 บริษัทสามารถเปิดตัวโครงการใหม่ได้ตามแผนที่วางไว้ จำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4,500 ล้านบาท ซึ่งทุกโครงการก็ได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากเป็นโครงการแนวราบทั้งหมด โดยกำลังเป็นที่นิยม และได้รับผลกระทบเชิงบวกจากปัจจัยในเรื่องของโควิด-19
นายสมนึก กล่าวว่า แผนงานและเป้าหมายในปี 2565 อยู่ระหว่างการเตรียม น่าจะมีการประกาศแผนปี 2565 ได้ในช่วงเดือน ม.ค.2565 แต่ในเบื้องต้นบริษัทเชื่อว่าทั้งรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์และยอดขายจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ ๆ ซึ่งจะส่งผลให้สต๊อกพร้อมขายเพิ่มขึ้นตาม
“ในปี 2565 บริษัทเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะโครงการประเภทแนวราบ ซึ่งได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากโควิด-19 และ NCH ก็มีข้อได้เปรียบจากคู่แข่ง คือการมีที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ที่เป็นต้นทุนเดิม จะทำให้มีความสามารถในการเพิ่มมาร์จิ้น ประกอบกับรัฐบาลมีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ทำให้ผู้บริโภคออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ นอกจากนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังมีการผ่านคลายมาตรการ LTV จะเป็นประโยชน์ต่อตลาดอสังหาฯ มากขึ้น” นายสมนึก กล่าว