SENA บวกแรง 7% วางเป้ายอดขายปีนี้แตะ 1 หมื่นล้าน-โบรกแนะซื้อชูปันผลยีลด์สูงเฉียด 6%
SENA บวกแรง 7% วางเป้ายอดขายปีนี้แตะ 1 หมื่นล้าน หลังเทนเดอร์ JSP แล้วเสร็จ-โบรกแนะซื้อชูปันผลยีลด์สูงเฉียด 6% โดย ณ เวลา 15:42 น. อยู่ที่ระดับ 5.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (20 ม.ค. 2565) ราคาหุ้นบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ณ เวลา 15:42 น. อยู่ที่ระดับ 5.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท หรือ 7.45% โดยทำจุดสูงสุดที่ 5.10 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 4.72 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 81.82 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้(26ม.ค.65) นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ SENA เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการจัดทำแผนงานและประเมินเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2565 คาดว่าจะมีการแถลงแผนงานและเปิดเผยรายละเอียดได้ในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2565 ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทวางเป้าหมายยอดขาย (Presale) ไว้ที่ระดับ 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปตัวเลขของปี 2564 อย่างไรก็ตามบริษัทพร้อมจะปรับเป้าหมายในทุก ๆ 3 เดือน หากมีปัจจัยลบที่จะเข้ามากระทบต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต
สำหรับเป้าหมายยอดขายปี 2565 ที่ตั้งไว้ระดับ 10,000 ล้านบาท จะมาจากการขายโครงการที่ SENA มีอยู่ในปัจจุบัน จำนวน 66 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 59,000 ล้านบาท และจะมาจากการขายโครงการของบริษัท เจ. เอส. พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JSP ซึ่งปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาจำนวน 26 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 11,000 ล้านบาท ซึ่งหากรวมกันจะส่งผลให้ SENA มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายในมือเพิ่มเป็น 92 โครงการ มูลค่าโครงการรวมมากกว่า 70,000 ล้านบาท
“ปัจจุบันกระบวนการเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มเติมของ JSP รวมถึงการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) ทั้งหมดของ JSP จะเสร็จสิ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ หลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอนุมติหุ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งการตัดสินใจลงทุนซื้อหุ้นในครั้งนี้ ถือเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท และจะช่วงเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของ SENA โดยเฉพาะโครงการประเภทแนวราบได้มากขึ้น” นางสาวเกษรา กล่าว
นางสาวเกษรา กล่าวต่อว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2565 จะฟื้นตัวขึ้นจากปีก่อน แต่ไม่มากนัก โดยปัจจัยหลักที่จะทำให้ตลาดฟื้นตัว ยังคงเป็นเรื่องของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เกิดการจ้างงาน ความเชื่อมั่นกลับมา สถาบันการเงินเริ่มปล่อยสินเชื่อได้ง่ายขึ้น หลังจากประชาชนเริ่มมีรายได้ที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งตลาดคอนโดมิเนียมยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่สุด เห็นได้จากปี 2564 ที่ผ่านมา สัดส่วนของตลาดคอนโดมิเนียมยังคงอยู่ที่ระดับ 60% ขณะที่ตลาดทาวน์เฮ้าส์ยังคงเป็นตลาดที่น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะมีสินค้าในตลาดจำนวนมาก ราคาสูง แต่อัตราการดูดซับน้อย
ด้านธุรกิจพลังงานทดแทน ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มดังกล่าวประมาณ 3-4% ซึ่งกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนของ SENA ยังคงดำเนินงานและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้มีการนำบล็อกเชน (Blockchain) เข้ามาช่วยในการจัดเก็บพลังงานภายในบ้าน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตลาดของธุรกิจพลังงานเติบโตขึ้น ขณะเดียวกันผู้เล่นก็มีจำนวนมากขึ้น จึงมีการแข่งขันทางด้านราคาสูงตามไปด้วย
ด้านนางสาวนวลพรรณ น้อยรัชชุกร ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ราคาหุ้น SENA ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นคาดว่าส่วนหนึ่งจะมีปัจจัยหนุนจากการเข้าซื้อบริษัท เจ. เอส. พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JSP ซึ่งมีโอกาสที่บริษัทจะสามารถทำยอดขายได้เติบโตขึ้นในปี 2565 แต่ยังคงต้องติดตามแผนกลยุทธ์ของบริษัทหลังจากนี้ และคาดว่าอาจจะมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาในเรื่องของเงินปันผลในปี 2564 ซึ่งคาดว่า SENA จะให้ผลตอบแทนของเงินปันผลที่ดีในระดับ 5.80%