TK แรลลี่ยาว พุ่งอีก 6% รับ “ทีเคเงินทันใจ” คว้าไลเซนส์ “จำนำทะเบียนรถ-สินเชื่อบุคคล”
TK แรลลี่ยาวพุ่งอีก 6% อานิสงส์ “ทีเคเงินทันใจ” ได้ไลเซนส์ “จำนำทะเบียนรถ-สินเชื่อบุคคล” คาดเปิดไตรมาส 2/65 ทั้งนี้ในปี 65 บริษัทคาดว่าผลประกอบการโดยรวมจะปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 ก.พ. 2565) ราคาหุ้น บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ณ เวลา 11:33 น. อยู่ที่ระดับ 12.20 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 6.09% โดยทำจุดสูงสุดที่ระดับ 12.30 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 11.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 53.84 ล้านบาท ซึ่งสามารถวิ่งทำนิวไฮในรอบ 3 ปี 7 เดือน
วันนี้ราคาหุ้น TK ปรับตัวขึ้นต่อรอบเกือบ 8 วันทำการ ขณะที่ภาพรวมใหญ่สามารถปรับตัวขึ้นทำนิวไฮในรอบ 3 ปี 7 เดือน โดยประมาณ หลังจากบริษัทมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับธุรกิจที่ชัดเจนขึ้น โดยนางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ TK เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทยังคงใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจด้วยการรักษาสถานะเงินสดของบริษัทฯ ให้อยู่ในระดับที่พร้อมลงทุน โดยมีแผนที่จะใช้เงินดังกล่าวในการเพิ่มรายได้ของ TK ใน 2 ทิศทาง คือ 1.ลงทุนขยายธุรกิจเดิมที่บริษัทเชี่ยวชาญในตลาดใหม่ๆ และ 2.ลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบันของบริษัท โดยพิจารณาการลงทุนขยายธุรกิจทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศที่ TK มีธุรกิจอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่ กัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา รวมถึงการมองหาโอกาสการลงทุนในประเทศอื่น ๆ โดยพร้อมเดินหน้าทันทีที่เห็นช่องทาง โอกาส และดีลที่เหมาะสม
“บริษัท ทีเค เงินทันใจ จำกัด เป็นหนึ่งในกิจการเชิงกลยุทธ์ของ TK ในการขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบัน ซึ่งเดิม ทีเค เงินทันใจ ให้บริการสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ หรือ นาโนไฟแนนซ์ ซึ่งให้บริการกับลูกค้าของ TK เป็นหลัก เพื่อเพิ่มบริการลูกค้าให้ครอบคลุมเส้นทางของผู้บริโภค (Customer Journey) มากขึ้น เราจึงยื่นขอใบอนุญาตเพิ่มเติมให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน หรือ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช่สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน หรือ สินเชื่อส่วนบุคคล โดยเพิ่งได้รับใบอนุญาตดังกล่าวเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา” นางสาวปฐมา กล่าว
ด้านนายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ TK กล่าวว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา TK มีลูกค้าในดาต้าเบสกว่า 3,000,000 ราย โดยเป็นลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ 99% และเป็นลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 1% ซึ่งปัจจุบัน TK มีเพียงบริการสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ หรือ นาโนไฟแนนซ์ เป็นบริการเพิ่มเติมให้กับลูกค้าของ TK เท่านั้น ซึ่งการเพิ่มบริการใหม่ๆให้กับลูกค้าเดิมของบริษัท จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าด้วยการเติมบริการที่เป็นทางเลือกใหม่อย่างบริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และสินเชื่อส่วนบุคคล โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ผ่อนงวดครบแล้วสามารถใช้ประโยชน์จากรถที่เป็นเจ้าของแล้วในการเข้าถึงแหล่งเงินเพื่อธุรกิจ เพื่อตนเอง หรือเพื่อครอบครัว รวมทั้งมีช่องทางในการเข้าถึงบริการสินเชื่อส่วนบุคคลที่ง่ายขึ้น
“การที่เรามีข้อมูลการใช้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และรถยนต์ของลูกค้ากลุ่มดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ เห็นประวัติและข้อมูลทางการเงินที่สามารถใช้ประกอบในการพิจารณาอนุมัติให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และสินเชื่อส่วนบุคคลได้ง่ายขึ้นสำหรับลูกค้า ส่วนในมุมของบริษัทฯ ก็จะสามารถบริหารจัดการกับความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้น นับเป็นการลดความเสี่ยงของบริษัทฯ ในขณะที่สามารถให้บริการลูกค้าเพื่อความสะดวกสบายในการเข้าถึงแหล่งเงินได้ง่ายกว่า โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการใหม่ดังกล่าวได้ ภายในไตรมาส 2/2565” นายประพล กล่าว
สำหรับในปี 2565 บริษัทคาดว่าผลประกอบการโดยรวมของ TK จะปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนไม่รุนแรง นอกจากนี้ปัญหาการขาดแคลนชิป ในการผลิตก็เริ่มคลี่คลาย อย่างไรก็ตามบริษัทจะยังคงใช้นโยบายเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เพื่อคัดกรองลูกค้าที่มีศักยภาพในการผ่อนชำระ ตามกลยุทธ์ในการรักษาระดับคุณภาพลูกหนี้