CHAYO บวก 5% ลุ้นกำไรปีนี้โตแรง 56% แตะ 353 ลบ. โบรกเชียร์ซื้อเป้าสูง 20 บ.
CHAYO บวก 5% ลุ้นกำไรปีนี้โตแรง 56% แตะ 353 ลบ. โบรกเชียร์ซื้อเป้าสูง 20 บ. โดย ณ เวลา 16:14 น. อยู่ที่ระดับ 13.50 บาท บวก 0.60 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(2 ก.พ.65) ราคาหุ้น บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรื CHAYO ณ เวลา 16:14 น. อยู่ที่ระดับ 13.50 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 4.65% สูงสุดที่ระดับ 13.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 12.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 264.71 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” CHAYO และประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 20 บาท (อิง PEG ที่ 1 เท่า และ EPS growth 56%) โดยในปี 2565 จะเป็นหนึ่งในปีที่ CHAYO กลับมาโลดแล่นน่าตื่นเต้น (หลังจากราคาหุ้นนิ่งมานานครึ่งปี) อิงแผนธุรกิจที่เป็นเชิงรุกมากขึ้น หลังมีสภาพคล่องเพิ่มพร้อมลุยซื้อหนี้ และเจรจาร่วมทุนทำ AMC กับธนาคารพาณิชย์ อีกทั้งธุรกิจปล่อยสินเชื่อพร้อมรุกมากขึ้น
ส่งผลต่อภาพรวมของทิศทางรายได้และกำไรเติบโตแรง บริษัทวางงบลงทุนซื้อหนี้ไว้ 3-6 พันล้านบาท (รวม JV) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่ซื้อไปเพียง 1.3 พันล้านบาท เนื่องจากมีความพร้อมสภาพคล่องมาก ที่สำคัญในปีนี้จะเดินเกมรุกธุรกิจปล่อยสินเชื่อ ตั้งเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อ 1 พันล้านบาท (จากราว 350 ล้านบาทในปี 2564) ฝ่ายวิจัยฯ คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2565 ที่ 353 ล้านบาท เติบโต 56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ยังมีอัพไซด์จากการร่วมทุน JV ธนาคารพาณิชย์ ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจา
บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์(28 ม.ค.64)ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศ “หลักเกณฑ์การดำเนินงานในกิจการร่วมทุนเพื่อแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพอันเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019” เพื่อเป็นเครื่องมือการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในระบบเศรษฐกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยมองเป็นบวกต่อกลุ่ม Finance และกลุ่มธนาคาร จากการจัดตั้งการร่วมทุน (JV) ของสถาบันการเงิน และบริษัทบริหารสินทรัพย์ Finance โดยมองเป็นบวกต่อประเด็นดังกล่าว ประเมินว่าการจัดตั้ง JV จะส่งผลบวกต่อการดำเนินงานของบริษัท AMC ดังนี้
1) AMC มีทรัพย์ภายใต้การบริหารที่เพิ่มขึ้น
2) บริษัทไม่มีความจำเป็นที่จะต้องลงทุนใน JV ที่สูง เนื่องจาก JV สามารถระดมทุนผ่านการกู้ยืมเงินได้
3) รับรู้รายได้จากการรับจ้าง JV ในการบริหารจัดการหนี้เสีย โดยประเมินว่ารายได้จะอิงจากมูลหนี้รับจ้าง และผลสาเร็จจากการติดตามหนี้ รวมทั้งรับรู้รายได้ส่วนแบ่งจาก JV เพิ่มขึ้น
4) เพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามหนี้ โดยคาดว่าธนาคารจะยินยอมให้ข้อมูลลูกหนี้กับ JV ทำให้ลดระยะเวลาในการติดตามลูกหนี้
เคทีบีเอสทีประเมินว่าการจัดตั้ง JV ข้างต้นจะเป็นการปลดล็อคการจัดตั้ง JV เพื่อบริหารจัดการหนี้เสีย secured loan และคาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนของการจัดตั้ง และผลดำเนินงานของ JV ในครึ่งหลังปี 65 อิงระยะเวลาในการจัดตั้ง และแต่งตั้งคณะกรรมการจานวน 3-4 เดือน และระยะเวลาของใบอนุญาต AMC จานวน 1 เดือน โดยการจัดตั้ง JV ข้างต้นจะส่งบวกต่อผู้ประกอบการ AMC เรียงจากมากไปน้อย ได้แก่ BAM, JMT และ CHAYO อิงขนาดพอร์ตหนี้เสีย, ความสามารถและเชี่ยวชาญในการบริหารหนี้เสีย Secured loan, และฐานเงินทุนในการเข้าลงทุน JV
โดยยังคงในน้ำหนักการลงทุนในกลุ่ม Finance ที่ “เท่ากับตลาด” และ Top pick เป็น JMT (ซื้อ/เป้า 80.00 บาท) และจากประเด็นดังกล่าวจะเห็นการเก็งกำไรของ BAM (ถือ/เป้า 20.50 บาท) เพราะได้ประโยชน์สูงสุด
สำหรับ BAM เรามีโอกาสที่จะปรับประมาณการกำไร และราคาเป้าหมายขึ้น จากการปลดล็อค JV ที่จะช่วยหนุนผลการดำเนินงานในระยะยาวของบริษัท Bank เรามีมุมมองเป็นบวกต่อประเด็นดังกล่าว จะทำให้กลุ่มธนาคารมีการทำ JV กับบริษัทในกลุ่ม AMC ได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มธนาคารมี NPL ที่ลดลงได้ในระยะยาว และช่วยให้มีกำไรจากการขายได้ดีขึ้นแต่เป็น upside ต่อกำไรของแต่ละธนาคารไม่มาก