INSET บวก 3% วางเป้ารายได้ปีนี้โต 20% รับดีมานด์ดาต้าเซ็นเตอร์พุ่ง-แนะซื้อเป้า 8.40 บ.
INSET บวก 3% วางเป้ารายได้ปีนี้โต 20% รับดีมานด์ดาต้าเซ็นเตอร์พุ่ง-ลุ้นคว้างาน 300 ล้าน ก.พ.นี้ โบรกฯแนะซื้อเป้า 8.40 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(3 ก.พ.65)ราคาหุ้น บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) หรือ INSET ล่าสุด ณ เวลา 10.45 น. อยู่ที่ 6.95 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 2.96% สูงสุดที่ 7.05 บาท ต่ำสุดที่ 153.90 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 153.90 ล้านบาท
โดยก่อนหน้า(30 ม.ค.64)นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต กรรมการผู้จัดการ INSET กล่าวว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคมในช่วง 3-5 ปี ยังมีความต้องการศูนย์ Data Center อีกมาก โดยมีปัจจัยมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ความต้องการดิจิทัลเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ส่งผลให้แพลตฟอร์มเป็นระบบออนไลน์ เป็นความจำเป็นที่ส่งผลให้ต้องมีการลงทุน Data Center โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ อีกทั้งยังทำให้มีการขยายธุรกิจคลาวด์ และโครงข่ายอินเทอร์เน็ตรองรับการทำงานที่บ้าน การเรียนออนไลน์ เป็นต้น
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้เติบโต 15-20% จากปีก่อน โดยในช่วงไตรมาส 1-2/2565 ยังมีแนวโน้มที่ดี โดยจะมีการทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (แบ็กล็อก) ที่เหลือจากการส่งมอบ ณ สิ้นปี 2564 ประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการรับรู้รายได้ในปี 2565 ประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ถึงปี 2568 นอกจากนี้ยังมีรายได้ประจำ (Recurring Income) ที่จะมีการรับรู้รายได้ต่อเนื่องประมาณ 200 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าเข้าร่วมประมูลโครงการภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานด้านการสร้างศูนย์ Data Center ที่มีความต้องการใช้งานมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ลงนามบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น (MOU) ในงาน Data Center ในโครงการ EEC Data Center เพื่อรองรับการใช้งาน Data และคลาวด์ที่สูงมากขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทยังอยู่ระหว่างการประมูลงาน มูลค่าประมาณ 200-300 ล้านบาท คาดจะทราบผลการประมูลในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.นี้ ส่วนการลงทุนในปี 2565 ตั้งงบไว้ประมาณ 300-500 ล้านบาท อย่างไรก็ตามธุรกิจ 5G ขณะนี้ยังไม่ได้ลงทุนเต็มรูปแบบ เนื่องจากยังรอเทคโนโลยีใหม่ที่จะต้องมีการลงทุนโครงข่ายในคลื่นความถี่สูง อย่างการใช้หุ่นยนต์สำหรับทางการแพทย์ในห้องผ่าตัด หรือการใช้หุ่นยนต์ในโรงงาน เป็นต้น
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า ได้ปรับประมาณการกำไร INSET ปี 2565-2566 ขึ้น 4.9% และ 8.1% ตามลำดับ หลัก ๆ มาจากการปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น จากประมาณการใหม่กำไรปี 2565 เพิ่มขึ้น 14.8% จากปีก่อน และปี 2566 เพิ่มขึ้น 14.1% จากปีก่อน คิดเป็นอัตราการเติบโตต่อปีเฉลี่ย (CAGR) 14% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดโตเฉลี่ย 12%
ทั้งนี้ แนวโน้มธุรกิจ Data center สดใสตามการใช้งาน Data และ Cloud ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับงานก่อสร้างเสาและสายสัญญาณโทรคมนาคมตามการลงทุนของผู้ประกอบการมือถือ และงานปรับภูมิทัศน์โดยนำสายไฟลงใต้ดิน ในเดือน พ.ย. 2564 INSET ได้รับงานก่อสร้าง Data center ในเขต EEC มูลค่า 413 ล้านบาท เป็นลักษณะ BOT (Build Operate Transfer Contact) โดยมูลค่าหลักราว 80% เป็นค่าก่อสร้าง มีระยะเวลาส่งมอบงาน 240 วัน หนุนให้แบ็กล็อกเพิ่มขึ้นเป็น 2,300 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทเข้าประมูลงานใหม่และกำลังรอผลอีก 2-3 โครงการ
ทั้งนี้บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ม.ค.2565) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น INSET ราคาเป้าหมายเฉลี่ย IAA Consensus ที่ 8.40 บาท โดยแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2564 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากปีก่อน แต่ชะลอตัวเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน จากฐานสูง อย่างไรก็ตามมองว่าปี 2565 จะได้แรงหนุน หลังจากการเติบโตของธุรกิจ Data Center ตามการใช้งาน Cloud ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะเห็นผู้ให้บริการรายใหญ่จากต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
ขณะที่อีกส่วนหนึ่งจะมาจากงานก่อสร้างเสาและสายสัญญาณโทรคมนาคมตามการลงทุนของ Operator ในการขยายบริการ 5G โดยปัจจุบันมี Backlog ราว 2.3 พันล้านบาท และกำลังเข้าประมูลงานใหม่อีก 2-3 โครงการ