WORK วิ่งเฉียด 5% ลุ้นกำไร Q4 ฟื้นตัวแกร่ง โบรกฯ ชี้สัญญาณเทคนิคเด่น วางแนวต้าน 26.50 บ.
WORK วิ่งเฉียด 5% ราคาแตะ 25.75 บ. ลุ้นกำไรไตรมาส 4/64 ฟื้นตัวแกร่ง รับเม็ดเงินโฆษณาเพิ่ม จับตาผลงานปี 65 โตต่อเนื่อง โบรกฯ ชี้สัญญาณเทคนิคเด่น วางแนวต้าน 26.50 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK ล่าสุด ณ เวลา 16.01 น. อยู่ที่ 25.75 บาท บวก 1.15 บาท หรือ 4.67% สูงสุดที่ 26 บาท ต่ำสุดที่ 24.30 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 296.11 ล้านบาท
ทั้งนี้ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ก.พ.2565) แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” โดยราคา หุ้น WORK ในกราฟ Daily Timeframe แกว่งตัว ขึ้น Breakout Symmetrical Triangle โดยราคาวานนี้ปิดเหนือเส้นค่า เฉลี่ย EMA 10/50/200 วัน พร้อม Volume การซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเกินค่าเฉลี่ย
ประกอบกับเครื่องมือทางเทคนิคส่วนใหญ่ส่งสัญญาณเชิงบวก อาทิเช่น Momentum Indicator อย่าง MACD แกว่งตัวขึ้นเหนือแกน 0 โดยมี Slow Stochastic และ RSI แกว่งตัวขึ้นเหนือ 50% บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของโมเมนตั้มขา ขึ้น ผสานกับ Volume Indicator อย่าง OBV และ Money Flow Index แกว่ง ตัวขึ้นเช่นกัน ฉะนั้นให้น้ำหนักราคาแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านระยะสั้น ถัดไปที่กำหนด 25.25 / 26.5 บาท ระดับการตัดขาดทุนคือต่ำ 23.4 บาท
ด้าน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (26 ม.ค.2565) ว่า คาด WORK ไตรมาส 4/2564 กำไรเพิ่มขึ้น 72% เมื่อเทียบจากปีก่อน เป็น 60 ล้านบาท จากอัตราการขาย (U Rate) ที่ดีขึ้นและการคุมค่าใช้จ่าย คาดรายได้ลดลง 9.7% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่ 580 ล้านบาท แม้รายได้โฆษณาคาดเพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบจากปีก่อน ตามอัตราการขาย (U Rate) ที่ดีขึ้นจากไตรมาส 4/2563 ที่ 60% เป็น 68% ราคาขาย (Ad Rate) คาดอ่อนลงเล็กน้อย แต่รายได้ที่ลดลงมาจากธุรกิจอื่นหดตัวลงจากผลกระทบ COVID-19 ทั้งการรับจ้างจัดงานและละครเวทีต้นทุนและ SG&A คาดลดลง 20.8% และ 8.4% ตามลำดับ จากนโยบายคุมและบริหารค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้หากเทียบเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนคาดกำไรลดลง 13.1% แม้รายได้เพิ่มขึ้น 11.1% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน ตามเม็ดเงินโฆษณาในทีวีดิจิทัลที่นีลเส็นฯ รายงานดีขึ้น 11% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน เป็น 16,368 ล้านบาท และอัตราการขายดีขึ้นจาก 53% ในไตรมาส 3/2564 แต่ต้นทุนและ SG&A คาดปรับตัวขึ้น 10.2% และ 22.6% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน ส่วนหนึ่งขึ้นตามรายได้และคาดมีค่าใช้จ่ายพนักงานที่สูงขึ้นจากโบนัสปลายปี
ทั้งนี้จากคาดการณ์ในไตรมาส 4/2564 จึงปรับกำในปี 2565 ขึ้นเป็น 401 ล้านบาท จากเดิม 374 ล้านบาท โต 152.2% เมื่อเทียบจากปีก่อน แต่ยังคงคาดกำไรปี 2566 ที่ 508 ล้านบาทไว้ ยังคงราคาพื้นฐานปี 2565 ที่ 25 บาท ราคาหุ้นตอบรับแนวโน้มธุรกิจที่ฟื้นตัวบ้างแล้ว จึงปรับแนะนำลงเป็น “ทยอยซื้อ”จาก “ซื้อ”