ZIGA ซิลลิ่ง! หลัง “สมพงษ์ ศิลป์สมบูรณ์” เก็บ 12% ขานรับกระแส “บิตคอยน์” หนุนต่อ
ZIGA ซิลลิ่ง! หลัง "สมพงษ์ ศิลป์สมบูรณ์" เข้าซื้อ 12.3485% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ราคาซื้อขายในราคา 7.15 บาท/หุ้น ขานรับกระแส “บิตคอยน์” หนุนต่อ!
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (14 ก.พ. 2565) ราคาหุ้น บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA เวลา 11:30 น. อยู่ที่ระดับ 11.90 บาท เพิ่มขึ้น 2.70 บาท หรือ 29.35% โดยทำจุดสูงสุดที่ 11.90 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 10.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.83 พันล้านบาท
โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มาหุ้นของ ZIGA โดย นายสมพงษ์ ศิลป์สมบูรณ์ ซึ่งเป็นการได้มาเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา คิดเป็น 12.3485% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา คิดเป็น 12.3485% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ราคาซื้อขายในราคา 7.15 บาท/หุ้น ในวันที่ 10 ก.พ. 2565 ผ่าน บล.เกียรตินาคินภัทร
นอกจากนี้บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ก.พ. 2565) ว่า ผู้บริหาร ZIGA เผยได้เริ่มทดลองธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์เมื่อ 25 ธ.ค. 2564 เฟสแรก 100 เครื่อง งบลงทุน 50 ล้านบาท ปรากฏว่าได้พอใจจึงลงทุนในเฟส 2 อีก 100 เครื่อง เริ่มขุดเมื่อ 16 ม.ค. 2565 และ ล่าสุดได้แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อ 8 ก.พ. 2565 คณะกรรมการบริษัทมีมติสั่งเครื่องขุดอีก 200 เครื่อง คาดติดตั้งเสร็จพร้อมขุดเดือน มี.ค. 2565 โดยผู้บริหารเผยว่ากลุ่ม 100 เครื่องขุดจะขุดได้ราว 0.05 บิตคอยน์/วัน มีต้นทุนหลักเป็นค่าไฟฟ้า และค่าเสื่อมราคาตัดเส้นตรงราว 5 ปี โดยผู้บริหารคาดจะเริ่มเห็นรายได้อย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 1/2565 เป็นต้นไปจากเครื่องขุดรวม 400 เครื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติวงเงินกู้ 4 พันล้านบาทไว้แล้วอีกด้วย โดยส่วนหนึ่งจะนำมาพัฒนาโครงการเหมืองขุดบิตคอยน์ตั้งเป้า 10,000 เครื่องภายในปีนี้
สำหรับทิศทางราคาบิตคอยน์ฟื้นตัวนี้ ผู้บริหารคาดหวังจุดคุ้มทุนที่ 10-12 เดือน อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยประเมินว่าแต่ละไตรมาสจะมีค่าไฟราว 12 ล้านบาทและค่าเสื่อมราคาราว 10 ล้านบาท ขณะที่รายได้บนงบกำไรขาดทุนจะผันผวนไปตามราคาบิตคอยน์ ณ สิ้นงวด เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จึงยากที่จะประเมิน แต่ทว่าธุรกิจนี้จะทำให้ภาพของ ZIGA จะเปลี่ยนไปเป็น Asset play ตราบที่บิตคอยน์ยังมีมูลค่าเพิ่มต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดีผลการดำเนินงานคาดกลับมาอยู่ในเส้นทางที่ดี คาดกำไรปกติไตรมาส 4/2564 ที่ 45 ล้านบาท ขยายตัว 30.50% จากไตรมาสก่อน และใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งแม้ว่ารายได้คาดจะขยายตัวได้ดี 55.60% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ทางฝ่ายวิจัยประเมินว่าด้วยทิศทางของราคาเหล็กโลก Hot rolled coil ที่อ่อนตัวลงมาเฉลี่ย 6.70% จากไตรมาสก่อนอ ทำให้ทางฝ่ายวิจัยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงต่อ 170bps เป็น 25% อย่างไรก็ดีเมื่อรวมกับกำไรปกติงวด 9 เดือนแรกปี 2564 ที่แข็งแกร่ง 125 ล้านบาท ทำให้ในภาพรวมปี 2564 คาดกำไรปกติจะอยู่ที่ 170 ล้านบาท ขยายตัว 43.60% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ก่อนหน้า ส่วน upside จากธุรกิจใหม่ ทางฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างติดตามพัฒนาการ และพิจารณารูปแบบ valuation ที่เหมาะสม