หุ้น “อิเล็กฯ” ร่วงหนัก! โบรกฯเลี่ยงลงทุน หวั่นสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” กดดันต้นทุน-ชิปขาด

หุ้น “กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์” ร่วงหนัก! โบรกฯแนะเลี่ยงลงทุน หวั่นสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” กดดันต้นทุน-ชิปขาด! ชี้ HANA-DELTA-KCE-HTECH กระทบมากสุด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (19 ม.ค. 2565) ราคาหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลง นำโดยราคาหุ้นบริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE ณ เวลา 11:12 น. อยู่ที่ระดับ 58.00 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 32.93% โดยทำจุดสูงสุดที่ 59.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 57.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 881.56 ล้านบาท

ด้านบริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA  ณ เวลา 11:13 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 59.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 2.46% โดยทำจุดสูงสุดที่ 60.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 59.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 307.37 ล้านบาท

ส่วนบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ณ เวลา 11:15 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 393.00 บาท ลดลง 9.00 บาท หรือ 2.24% โดยทำจุดสูงสุดที่ 400.00 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 391.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 147.57 ล้านบาท

ด้านบริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH ณ เวลา 11:17 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 5.50 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 3.51% โดยทำจุดสูงสุดที่ 5.75 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 5.45 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.82 ล้านบาท

บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(14 ก.พ.65) ว่า  จากเหตุการณ์ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (11/02/22) นาย Joe Biden (ประธานาธิบดีสหรัฐฯ) เรียกร้องให้ชาวอเมริกันที่อาศัยในยูเครนเดินทางออก จากประเทศยูเครน หลังจากที่นาย Jake Sullivan (US National Security) แจ้งว่า เริ่มเห็นสัญญาณว่ารัสเซียมีแนวโน้มเข้าโจมตียูเครน งคาดว่าจะเกิดขึ้น ในช่วงการแข่งขันกีฬา Olympic (4-20 ก.พ.2565) โดยรัสเซียกำลังข้อมรบใน เบลารุส โดยคาดว่า การใช้กำลังทหารรสเซียราว 30,000 นาย ซึ่งถือเป็นการ ส่งทหารเข้าสู่เบลารุสมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามเย็น ขณะที่ปรน.ใบเดน ปฏิเสธแนวคิดที่จะส่งกำลังทหารสหรัฐเข้าไปในยูเครน

ส่งผลให้ตลาดหุ้นอเมริกาในคืนวันศุกร์ปรับตัวลงแรง Dow Jones (-14%), S&P (-1.9%), Nasdaq (-2.8%) ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ(เพิ่มขึ้น4.5%) Inuunau โดยหุ้นที่ปรับตัวลงแรงมากสุดเป็นกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิต chip ได้แก่ AMD (ลดลง10%), Nvidia (ลดลง 7 %), Marvell (-7 %) และ: Qualcomm (ลดลง 5%) เนื่องจากตลาดกังวลว่าสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียจะเกิด supply chain disruption ในกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วน electronic

สถานการณ์ปัจจุบันทางฝั่งจองประธานาธิบดีของสหรัฐฯ และรัสเซียอยู่ระหว่าง เจรจาหาทางออกร่วมกัน โดยในวันเสาร์ที่ผ่านมา (12. ก.พ.2565) ทั้งสองฝ่ายหา ข้อสรุปไม่ได้ และประเทศในกลุ่ม EU เรียกร้องให้ประชาชนเดินทางออกจาก ประเทศยูเครนเพิ่มเติมจากความกังวลสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน

KTBST: มีมุมมองเป็นลบต่อกลุ่ม Electronic จากความกังวลว่าสงคราม ระหว่างยูเครนและรัสเซียจะเกิด supply chain disruption ในกลุ่มผู้ผลิต ชิ้นส่วน electronic โดยทั้งยูเครนและรัสเซียเป็น supplier วัตถุดิบในการผลิต โดยข้อมูลจาก Techcet research พบว่า กว่า 90% ของ semiconductor grade neon gas ที่ใช้ใน US นําเข้าจากยูเครน และ 35% ของแร่ palladium ที่ ใช้ใน US นําเข้าจากรัสเซีย โดยวัตถุดิบทั้ง 2 อย่างเป็นส่วนสำคัญในการใช้ผลิต chip

ทั้งนี้ามองว่าจากสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อราคา หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วน electronic ในไทยสอดคล้องกับตลาดอเมริกา โดยแบ่งเป็น 2 สาเหตุ 1.supply chain disruption จะส่งผลให้ปัญหา chip shortage ยืดเยื้อออกไป 2.หากเกิดสงครามจะส่งผลให้ราคาน้ำมัน และราคา สินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อเงินเฟ้อ และการตัดสินใจของ ธนาคารกลางสหรัฐฯเกี่ยวกับมาตรการดอกเบี้ยในช่วงมีนาคมนี้

ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นจะยังเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นต่อไป ทั้งนี้แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุน หุ้นกลุ่ม electronic ในช่วงนี้ไปก่อน โดยคาดว่าหุ้นที่จะได้รับผลกระทบมาก สุด (เรียงจากมากไปน้อย) คือ 1.HANA (ซื้อ/เป้า 105.00 บาท) 2.DELTA (NR) 3.KCE (ซื้อ/เป้า 80.00 บาท) 4.HTECH (ซื้อ/เป้า 9.50 บาท)

Back to top button