บอร์ด TRUE ไฟเขียวควบรวม DTAC ตั้งบ.ร่วมทุน สยายปีกสู่ศูนย์กลาง ”ไอที” ระดับภูมิภาค

บอร์ด TRUE ไฟเขียวควบรวม DTAC ตั้งบ.ร่วมทุน สยายปีกสู่ศูนย์กลาง ”ไอที” ระดับภูมิภาค เพื่อตอบสนองลูกค้า พร้อมรุกให้บริการ 5G เครือข่ายที่ดี ตลอดจนบริการใหม่ๆ คาดดีลเสร็จในปีนี้


บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น  จำกัด (มหาขน) หรือ TRUE เปิดเผยว่า วันนี้(18ก.พ.65)ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการควบระหว่าง TRUE และ บริษัท โทเทิล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชัน จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC โดยให้บริษัท เข้าทำสัญญาควบรวมกิจการกับ DTAC เพื่อกำหนดข้อกำหนดและเงื่อนไข รวมถึงเสนอให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2565 พิจารณาอนุมัติ

ทั้งนี้ในการควบบริษัทจะมีการจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และ DTAC ในอัตราส่วน ดังนี้ 1 หุ้นเดิมในบริษัทฯ ต่อ 0.60018 หุ้นในบริษัทใหม่ และ 1 หุ้นเดิมใน DTAC  ต่อ 6.13444 หุ้นในบริษัทใหม่

สำหรับอัตราส่วนข้างต้นพิจารณาโดยอ้างอิงจากทุนจดทะเบียนและทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทใหม่ จำนวน 138,208,403,204 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 34,552,100,801 หุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4 บาท

อย่างไรก็ตาม TRUE และ DTAC จะจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการควบบริษัทและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการควบบริษัท ซึ่งรวมถึงการลดทุนจดทะเบียน จำนวน 1,840,652 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 133,474,621,856 บาท แบ่งเป็น 33,368,655,464 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 133,472,781,204 บาท แบ่งเป็น 33,368,195,301 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4 บาท โดยการตัดหุ้นที่ยังมิได้นำออกจำหน่าย จำนวน 460,163 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4 บาท ซึ่งการลดทุนจดทะเบียนดังกล่าวเป็นการดำเนินการเพื่อให้ทุนจดทะเบียนและทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทใหม่เท่ากับผลรวมของทุนจดทะเบียนและทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ และ DTAC

นอกจากนี้การแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิ เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ ทั้งนี้ การควบบริษัทต้องได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ DTAC ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนตามบทบัญญัติของ พ.ร.บ. บริษัทมหาชน

โดยภายหลังจากการประชุมผู้ถือหุ้นร่วมกัน คณะกรรมการของบริษัทใหม่จะดำเนินการจดทะเบียนการควบบริษัท พร้อมกับยื่นหนังสือบริคณห์สนธิและข้อบังคับที่อนุมัติโดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นต่อนายทะเบียนบริษัทมหาชน กระทรวงพาณิชย์ ภายใน 14 วันนับแต่วันทีเสร็จสิ้นการประชุมผู้ถือหุ้นร่วมกัน เมื่อจดทะเบียนการควบบริษัทแล้ว TRUE และ DTAC จะหมดสภาพจากการเป็นนิติบุคคล และหลังจากบริษัทใหม่จดทะเบียนจัดตั้งแล้วเสร็จ ก็จะยืนคำขอให้รับหุ้นของบริษัทใหม่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ฉบับสมบูรณ์และเอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งหุ้นของบริษัทฯ และ DTAC จะถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

นอกจากนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนเพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารทางการเงิน โดยหุ้นที่จะจำหน่ายคืน มีจำนวน 24,000,000 หุ้น คิดเป็น 0.07% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ทังนี้ การจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนจะเป็นการจำหน่ายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ระหว่างวันที่ 7 มีนาคม 2565 ถึง 31 พฤษภาคม 2565

ขณะที่ DTAC แจ้งว่าคณะกรรมการบริหาร DTAC มีมติเห็นชอบในการควบรวมกิจการกับ TRUE หลังจากผ่านขั้นตอนในการสอบทานกิจการ (Due Diligence) และมีมติให้ดำเนินการตามข้อตกลงกับทรูเพื่อจัดตั้งบริษัทเทคโนโลยี-โทรคมนาคมใหม่ (Telecom-Tech Company) โดยการดำเนินการยังคงต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของทั้งสองบริษัท และตามกฎข้อบังคับกิจการโทรคมนาคม ทั้งนี้ DTAC จะยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติและแยกอิสระจนกว่าธุรกรรมการควบรวมกิจการจะแล้วเสร็จ คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2565

ทั้งนี้ภายใต้ความร่วมมืออย่างเท่าเทียมกัน ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันจัดตั้งบริษัทเทคโนโลยี-โทรคมนาคม เพื่อตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับการรับมือกับความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งบริษัทใหม่นี้จะให้บริการ 5G ที่ครอบคลุม พร้อมคุณภาพเครือข่ายที่ดีขึ้น ตลอดจนบริการใหม่ๆ และการดูแลลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น

บริษัทใหม่นี้จะช่วยผลักดันประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีในระดับภูมิภาค โดยนำเสนอความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีระดับโลกที่น่าสนใจทั้งในด้านบริการและผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ในขณะเดียวกันก็สร้างโอกาสในการจ้างงานในระดับแถวหน้าของดิจิทัล ซึ่งจะรวมถึงการระดมทุนเพื่อลงทุนในดิจิทัลสตาร์ทอัพที่มุ่งเน้นนวัตกรรมของสินค้าและบริการเพื่อลูกค้าชาวไทย

ตามที่ได้ประกาศไปเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2564 จะมีการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจ (voluntary tender offer หรือ VTO) แก่ผู้ถือหุ้น DTAC และ TRUE ซึ่งมีทางเลือกที่จะร่วมตามการเสนอซื้อหลักทรัพย์ หรือดำเนินการต่อในฐานะผู้ถือหุ้นในบริษัทที่ควบรวมกิจการกัน ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

โดยระหว่างนี้ ทั้งสองบริษัทต่างแยกอิสระในการดำเนินธุรกิจขององค์กรต่อไปตามปกติ จนกว่าการดำเนินการจะเสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 การดำเนินการยังคงต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของทั้งสองบริษัท และตามกฎข้อบังคับกิจการโทรคมนาคม ทั้งนี้ ทั้งสองบริษัทได้ยื่นรายงานการรวมธุรกิจแก่ กสทช. เมื่อวันที่ 25 มกราคม 65

Back to top button