BRI ปี 65 มุ่งธุรกิจ Growth Together เต็มสูบ! จับตาแจ้งงบปี 64 โตเด่น 24 ก.พ.นี้
BRI ปี 65 มุ่งธุรกิจภายใต้คอนเซปต์ Growth Together ลุ้นยอดขายปีนี้แตะ 1.1 หมื่นลบ. ผุด 12 โครงการใหม่ 1.43 หมื่นลบ. ลุยขยายตลาดภาคตะวันออก-อีสาน จับตาแจ้งงบปี 64 โตเด่น 24 ก.พ.นี้
นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 22 ก.พ.2565 มีประเด็นสำคัญดังนี้
ขยายความ ภาพรวมของคอนเซปต์ของ Growth Together
สำหรับ Growth Together ความหมายก็คือเติบโตไปด้วยกันเนื่องจากธุรกิจ หลังจากที่เข้าตลาดฯลักษณะการประกอบธุรกิจก็ต้องมีการยกระดับไม่ใช่เป็นบริษัทดำเนินธุรกิจมุ่งหวังผลกำไรเพียงอย่างเดียวแต่ต้องคำนึงถึงความยั่งยืน และคำนึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นธงสำคัญที่ได้ให้เป้าหมายตั้งแต่ในการเข้าตลาดไป ดังนั้นการดำเนินธุรกิจปีนี้จึงเดินไปขึ้นมาภายใต้คอนเซปต์ Growth Together คือจะคิดรอบด้านทั้งตัวบริษัทลูกค้าและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
“Growth ในที่นี้รวมไปถึงรายได้และกำไรและมาในทุกมิติ และไปได้ไกลแบบก้าวกระโดดและมั่นคง พร้อมด้วยความแรงเร็วที่มีพลังในการที่จะไปด้วยกัน”
ปีนี้ตังเป้าเปิด 12 โครงการ-ทำเลไหนบ้าง
บริษัทตั้งเป้าเปิด 12 โครงการใหม่ปี 2565 มูลค่าประมาณกว่า 13,400 ล้านบาท โดยจะทยอยเปิดตั้งแต่ไตรมาส 1/2565 ถึงไตรมาส 4/2565 จะแบ่งการเปิดโครงการในไตรมาสเปิด 1 โครงการ ประมาณ 700-800 ล้านบาท และในไตรมาส 2/2565 เปิด 1 โครงการมูลค่าประมาณ 2 พันล้านบาท ในไตรมาส 3/2565 เปิด 4 โครงการมูลค่า 3 พันกว่าล้านบาท และไตรมาส 4/2565 เปิด 6 โครงการมูลค่า 6 พันกว่าล้าน สำหรับปี 2564 ที่ผ่านมาบริษัทเปิดทั้งหมด 19 โครงการ มูลค่า 7 พันกว่าล้านบาท
ลุยเปิดโครงการพื้นที่ EEC ครบทุกจังหวัด
การขยายตัวไปในโลเคชั่นต่างๆเป็นแผนที่จะทำให้ธุรกิจเติบโต ส่วนหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลแล้ว บริษัทเริ่มไปเปิดในโซนกลุ่มอีซีนะคะปีนี้จะเติมเต็มในอีอีซีให้ครบทุกจังหวัด และในพื้นใหม่ที่เห็นศักยภาพในต่างจังหวัด โดยปีนี้จังหวัดที่จะเปิดได้แก่ จังหวัดระยอง จังหวัดอยุธยา จังหวัดอุดรธานี จังหวัดขอนแก่น
บริษัทฯ เล็งเห็นอะไรขยายตลาดสู่ภาคตะวันออกหรือภาคอีสาน
ในแต่ละที่เราลงไปมีความโดดเด่นเฉพาะตัว อาทิ อยุธยาอยู่ใกล้กรุงเทพฯมาก ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เมืองประวัติศาสตร์หรือสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่มีนิคมอุตสาหกรรม และถือว่าเป็นฮับของภาคกลางเส้นทางที่จะไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย เพราะฉะนั้นกำลังซื้อมันเชื่อมต่อกับ และรองรับการขยายตัวของกรุงเทพฯได้อย่างดี มีแหล่งงานมีกำลังซื้อ ยิ่งเศรษฐกิจฟื้นตัวในเรื่องของการส่งออกอยุธยาก็โดดเด่น
ส่วนพื้นที่จังหวัดระยองถือได้ว่าเป็นเมืองหลวงของอีอีซีและมีกำลังซื้อมากเนื่องจากมีรายได้ต่อหัวสูงสุดในประเทศ และพื้นที่ระยองเป็นการเติมเต็มกลุ่มอีอีซีครบแล้ว
ด้านพื้นที่จังหวัดอุดรธานี จังหวัดขอนแก่นมีความโดดเด่นเหมือนกัน ในแง่ของจังหวัดอุดรธานี เป็นที่ทราบกันดีว่าผู้บริหารท้องถิ่นประกาศเป็นสมาร์ทซิตี้ซึ่งการเข้าถึงเทคโนโลยีต่างๆที่ทำให้เป็นสมาร์ทซิตี้ บริษัทก็อยากเป็นเป็นส่วนหนึ่งของตรงนั้น เพราะโมเดลของ BRI ได้ใส่เรื่องของดิจิตอลลีฟวิ่งแพลตฟอร์มลงไปอยู่แล้วรูปแบบการทำธุรกิจเป็นสไตล์ทันสมัย และสอดคล้องกลับชีวิตความเป็นอยู่ มีการเชื่อมต่อเทคโนลียี โซเชียล เพราะฉะนั้นลักษณะผลิตภัณฑ์ของบริษัท ที่สอดคล้องกับนโยบายและยิ่งไปเติมเต็มให้กับจังหวัด
ส่วนพื้นที่ขอนแก่น เรียกได้ว่าประชากรเยอะมากเกือบ 2 ล้านคน และมีสถานศึกษาและศูนย์การแพทย์ที่ดีที่สุดศักยภาพของขอนแก่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเติบโตของเมือง ทั้งขอนแก่นและอุดร จะเห็นได้ว่าเป็นเพชรที่อยู่ในโซนของภาคอีสาน ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดแข็งของบริทาเนียในเรื่องของการนำเอาเทคโนโลยีนวัตกรรมต่างๆมาใช้
วางเป้ายอดขายปี 65 แตะ 1.1 หมื่นล้าน
สำหรับ BRI ธุรกิจมีการเติบโตต่อเนื่อง ในส่วนของต้นทุนบริษัทได้ควบคุมต่อเนื่อง และเมื่อเปิดโครงการจำนวนมากคาดปี 2565 ผลตอบแทนไม่น้อยไปกว่าปี 2564 และ BRI โฟกัสที่แนวราบ บริษัทวางเป้าหมายยอดขายปี 65 ไว้ที่ 1,1000 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 30% จากปีก่อนที่มียอดขาย 8.37 พันล้านบาท โดยจะเป็นการับรู้จากเปิด 19 โครงการ ปีก่อนประมาณ 70% และจากเปิด 12 โครงการมูลค่า 1.34 หมื่นล้านบาท ปีนี้ราว 30%
นอกจากนี้ในวันที่ 24 ก.พ.256 จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณางบการเงินปี 2564 ต้องจับตาว่าผลงานจะออกมาโดดเด่นตามคาดหรือไม่