BRI โบรกชูหุ้น Growth Stock ลุ้นกำไรปี 65 โตแรง 86% ทะลุ 1 พันล้าน แนะซื้อเป้า 13 บ.

BRI โบรกชูหุ้น Growth Stock ลุ้นกำไรปี 65 โตแรง 86% ทะลุ 1 พันล้าน รับยอดโอนทะลัก 7 พันลบ. หนุน แนะซื้อเคาะเป้า 13 บาท


บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(25 ก.พ.2565) ว่า  บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI รายงานกำไรสุทธิ ไตรมาส 4/2564 เท่ากับ 150 ล้านบาท (ลดลง 9% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, โต 156% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ใกล้เคียงกับที่คาดไว้ 151 ล้านบาท โดยงบเป็นไปตามทิศทางของยอดโอนที่ ลดลง 4% ไตรมาสก่อนหน้า จากผลกระทบของการปิดแคมป์ก่อสร้างในไตรมาสก่อนหน้า ทำให้แผนการก่อสร้างและส่งมอบล่าช้า

อย่างไรก็ดีเร่งขึ้นเด่นโต 102% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการรุกเปิด โครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นทำได้ใกล้เคียงกับไตรมาส 3/2564  ที่ 31.3% ขยับขึ้นจากไตรมาส 4/2563 ที่ 30.7% จากการปรับ Portfolio เปิดขายโครงการแบรนด์ Grand Britania ซึ่งเป็นระดับบนมากขึ้น ทำให้จบปี 2564 กำไรสุทธิอยู่ที่ 602 ล้านบาท โต 73% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แรงขับเคลื่อนหลักมาจากยอดโอนโต 63% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 3.8 พันล้านบาท ตามการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 9 โครงการ มูลค่ารวม 7.75 พันล้านบาท ยกฐาน สูงขึ้นจากปี 2563 ที่เปิดตัวจำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 6.2 พันล้านบาท

lสำหรับภาพรวมปี 2565 สดใส ประเมินกำไรขยายตัวโดดเด่นโต 86% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 1.1 พันล้านบาท มีแรงหนุนหลักจากยอดโอนโต 85% เป็น 7 พันล้านบาท ตามการรับรู้รายได้จากโครงการเพิ่มต่อเนื่อง และแผนรุกเปิดตัวโครงการใหม่ทำสถิติสูงสุดใหม่ จำนวน 12 โครงการ มูลค่ารวม 1.34 หมื่นล้านบาท (โต 73% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ท่ามกลางปัจจัยบวกจากการ ผ่อนคลาย LTV และกำลังซื้อที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ คาดหนุนโครงการใหม่จะได้รับ ผลตอบรับดีจากผู้บริโภคต่อเนื่อง สอดคล้องกับบริษัทตั้งเป้ายอด Presales เติบโต 31% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 1.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่อุปสงค์ในตลาดแนวราบที่แข็งแกร่ง คาดช่วยให้ผ่อนคลายการทำโปรโมชั่น และสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ระดับที่ดี

คงราคาเหมาะสมปี 2565 ที่ 13 บาท (อิง PER 10x) แนะนำซื้อ จากความน่าสนใจ 1) Growth Stock สะท้อนอัตราการเติบโตผลประกอบการปี 2565 เด่นสุดในกลุ่มอสังหาฯ คาดโต 86% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเทียบกับกลุ่มที่ โต 14% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนพร้อมระดับ ROE สูงสุด ที่ 30% เทียบค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ 12% 2) ขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์และจุดแข็งของกลุ่ม ORI โดยเฉพาะการปรับตัวได้เร็วตอบรับสภาพแวดล้อมและเมกะเทรนด์ที่เป็นบวกต่อการ เติบโตอย่างมั่นคงและได้เปรียบคู่แข่ง

3) มี Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการจาก การพัฒนาโครงการรูปแบบ JV คาดเห็นความร่วมมือกับพันธมิตรจำนวน 2 โครงการ ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นส่วนเพิ่มในการบันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุนและค่าบริหาร โครงการ รวมถึงคาดการณ์ยอดโอนของเราปีนี้ 7 พันล้านบาท ต่ำกว่าเป้าของบริษัท ที่ 7.25 พันล้านบาท 4) ปัจจุบันหุ้นเทรดบน PE2022 ที่ 9.0x เทียบกับคาดการณ์ กำไร 2 ปีข้างหน้า คิดเป็น PEG เพียง 0.2x พร้อมคาดผลตอบแทนปันผลปีนี้ 4.4%

Back to top button