ZIGA ดีดสวนตลาด! ลุ้นรายได้ปีนี้โต 30% รับธุรกิจท่อเหล็ก-เครื่องขุดบิตคอยน์หนุน
ZIGA ดีดสวนตลาด! ลุ้นรายได้ปีนี้โต 15-30% โดยยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจหลักเดิมและเตรียมออกสินค้าใหม่ อีกทั้งวางเป้าเพิ่มรายได้จากธุรกิจด้านเทคโนโลยีและสินทรัพย์ดิจิทัล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (8 มี.ค. 2565) ราคาหุ้นบริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA ณ เวลา 15:10 น. อยู่ที่ระดับ 8.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 5.23% โดยทำจุดสูงสุดที่ 8.75 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 7.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 643.98 ล้านบาท
นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ZIGA เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากธุรกิจด้านเทคโนโลยีและสินทรัพย์ดิจิทัลให้มากกว่าธุรกิจผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กที่ปัจจุบันเป็นธุรกิจหลักที่มีสัดส่วนรายได้มากกว่า 90%
ทั้งนี้ล่าสุด ZIGA จับมือร่วมทุนกับพันธมิตร เพื่อจัดตั้งบริษัทย่อย 2 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท เมอร์ลินตั้น อินโนเวชั่น จำกัด เพื่อการลงทุนและพัฒนาธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับ Digital Technology เพื่อพัฒนาต่อยอดธุรกิจคริปโทเคอร์เรนซี ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ZIGA ถือหุ้น 89.98% และ บริษัท วิสเดน กรุ๊ป จำกัด เพื่อลงทุนธุรกิจบริการทางการเงินด้วยเทคโนโลยี (FinTech) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ZIGA ถือหุ้น 69.99%
“การร่วมมือกับพันธมิตรในครั้งนี้ เป็นการพัฒนาเพื่อก้าวไปสู่การเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ และยังเป็นการเติมเต็มธุรกิจเหล็ก และธุรกิจโครงสร้างโรงเรือนกัญชง-กัญชา สนับสนุนการเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ต่อเนื่อง” นายศุภกิจ กล่าว
โดยเมื่อปลายปี 2564 บริษัทฯ เริ่มเข้าสู่ธุรกิจเหมืองบิทคอยน์ด้วยทุนราว 100 ล้านบาทติดตั้งเครื่องขุดบิทคอยน์ 200 เครื่อง จากนั้นต้นปี 2565 นี้จะเพิ่มจำนวนอีก 200 เครื่องในเดือน มี.ค.นี้ ด้วยงบลงทุนอีก 100 ล้านบาท ภายใต้โครงการลงทุนเฟสแรกไม่เกิน 1 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มองว่ามีโอกาสที่จะสามารถติดตั้งเครื่องขุดคริปโทฯ ได้มากกว่า 10,000 เครื่อง แต่คงต้องขึ้นกับกรอบของวงเงินที่จะสามารถระดมทุนได้ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นบริษัทฯ ได้ขออนุมัติผู้ถือหุ้นกำหนดกรอบวงเงินการออกหุ้นกู้ไว้แล้วกว่า 4,000 ล้านบาท
สำหรับเหรียญคริปโทฯ ที่ขุดนั้นไม่ได้เป็นการขุดออกมาเพื่อจำหน่าย แต่จะนำไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้มากยิ่งขึ้น ถือเป็นการป้องกันความเสี่ยงของการขึ้นลงด้านราคาเหรียญฯ และไม่มีนโยบายในการซื้อเหรียญบิทคอยน์มาขายเก็งกำไร
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างเตรียมแผนงานเพื่อออกเหรียญดิจิทัล (Digital Token) และผลิตเกมที่จะนำ Digital Token ไปสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมไปถึงการสร้างและออกเหรียญ NFT คาดว่าจะทยอยเห็นความชัดเจนภายในช่วงไตรมาส 2/2565
ส่วนภาพรวมรายได้ในปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 15-30% โดยยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจหลักเดิม ซึ่งความต้องการท่อร้อยสายไฟยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากโครงการขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้าต่างๆ โรงพยาบาล และโครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่คือท่อประปาที่คาดว่าจะเข้ามารองรับความต้องการจากลูกค้ากลุ่มเดิมที่มีมากขึ้น