TTCL บวกแรง 9% รับคว้างานใหม่ต่อเนื่อง-ตุน Backlog แน่น 1.5 หมื่นลบ.
TTCL บวกแรง 9% รับคว้างานใหม่ต่อเนื่อง-ตุน Backlog แน่น 1.5 หมื่นลบ. นิวไฮรอบ 3 ปี โบรกอัพเป้าใหม่ 4.86 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(11 มี.ค.65) ราคาหุ้นบริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL ณ เวลา 14.52 อยู่ที่ระดับ 4.74 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 9.22% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 81.56 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า TTCL ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาแจ้งข่าวรับงานใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 7.7 พันล้านบาท โดยเป็นงานในประเทศทั้งหมด ทำให้ล่าสุด TTCL มี Backlog รวม 1.5 หมื่นล้านบาท สูงสุดในรอบ 3 ปี โดยสภาพตลาดงาน EPC ในปัจจุบันดูดีกว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมามาก หลังเจ้าของโครงการที่เคยชะลอการลงทุนในช่วงโควิดเริ่มกลับมาเดินหน้าลงทุนใหม่อีกครั้ง ทำให้ TTCL ได้รับเชิญให้เข้าประมูลงานเพิ่มขึ้น
โดยมีงานที่อยู่ระหว่างยื่นประมูลรวม 4 หมื่นล้านบาท มีหลายโครงการที่จะทราบผลในช่วง 1H65 อาทิ โรงงานปิโตรเคมีในประเทศ 2โครงการ มูลค่าโครงการละ 4.5 พันล้านบาท โรงไฟฟ้าในประเทศมูลค่า 4 พันล้านบาท ส่วนความร่วมมือกับ Idenmitsu บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด (White Pellet & Black pellet) นำไปผสมกับถ่านหินสำหรับโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น หลังบรรลุข้อตกลงในการขายบริษัท HATIECO ให้กับIdenmitsu แล้ว TTCL จะนำเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นบริษัท HATIECO ไปใช้ในการลงทุนสร้างโรงงาน Black pellet แห่งอื่นๆร่วมกับ Idenmitsu ในอนาคต โดยที่ Idemitsu จะทำหน้าที่ดูแลด้านการตลาดเนื่องจากมีฐานลูกค้าที่เป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินจำนวนมากในประเทศญี่ปุ่น ส่วน TTCL ที่มีความเชี่ยวชาญงานก่อสร้างและเป็นเจ้าของเทคโนโลยีในการสร้างโรงงาน Black Pellet จะเป็นคนดูแลเรื่องการก่อสร้าง
ฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการปี 2565 จากกำไร 101 ล้านบาท เป็นขาดทุน 53 ล้านบาทเนื่องจากการรับรู้กำไรพิเศษในการขาย HATIECO เกิดขึ้นในปี 2564 เร็วกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ว่าจะรับรู้กำไรพิเศษดังกล่าวในปี 2565 อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยมีการปรับเพิ่มส่วนแบ่งกำไรที่รับจากโรงไฟฟ้า Ahlone#1 ที่เพิ่มขึ้นจาก 98 ล้านบาท เป็น 128 ล้านบาท ให้สอดคล้องกับส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/2564 ขณะที่รายได้จากธุรกิจ EPC ปรับเพิ่มจากประมาณการเดิม 9% อยู่ที่ 8.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยปี 2565 จะเป็นปีสุดท้ายที่ TTCL ต้องรับรู้ผลขาดทุนจากการตั้งสำรองด้อยค่าภายใต้มาตรฐานบัญชี TFRS9จำนวน 276 ล้านบาท ซึ่งการตั้งด้อยค่าดังกล่าวเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ปี 2565 TTCL มีผลขาดทุน หากไม่มีกำไรพิเศษอื่นๆเข้ามาชดเชยภาพรวมธุรกิจ EPC ที่ดูดีขึ้นสะท้อนผ่านการรับงานใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่ม FV จากเดิมที่อิง PBV 1.22 เท่า (Historical 5Y-0.5SD) มาเป็นHistorical PBV 5Y อยู่ที่ 1.36 เท่า จะให้ราคาเหมาะสมเพิ่มจากเดิม 4.39 บาท เป็น 4.86 บาท แต่ก็ยังให้ Upside ไม่น่าสนใจ คงคำแนะนำ Switch ไป STEC(FV@B 18) ที่มีUpside มากกว่า